ทุกคนรู้จัก ‘ท้าวทองกีบม้า’ ทุกคนรู้ว่านี่คือราชินีแห่งขนมไทยที่เป็นผู้คิดค้นขนมไทยหลากหลายชนิดจนสืบทอดมาถึงปัจจุบัน แต่ถ้าถามว่าแล้วรู้ไหมว่าขนมไทยโดยท้าวทองกีบม้ามีอะไรบ้าง เชื่อว่าจำนวนคนที่ตอบได้ครบน่าจะมีน้อยยิ่งกว่าน้อย เพราะส่วนมากก็จะรู้กันว่าเป็นขนมตระกูลทองต่างๆ ซึ่งนั่นเป็นแค่ส่วนหนึ่งเท่านั้นค่ะ ยังมีขนมอีกหลายชนิดที่ได้ยินแล้วอาจจะมีแปลกใจกันบ้าง ไม่เชื่อตามมาดู
ก่อนอื่นมาทำความรู้จักท้าวทองกีบม้ากันสักนิด ชื่อจริงคือ มารีอา กูโยมาร์ เด ปิญญา (Maria Guyomar de Pinha) หรือเรียกกันในชื่อ มารี กีมาร์ เป็นลูกครึ่งญี่ปุ่น-โปรตุเกส และเป็นภรรยาของ ‘เจ้าพระยาวิชเยนทร์’ หรือ คอนสแตนติน ฟอลคอน ขุนนางกรีกที่ทำราชการในรัชกาลสมเด็จพระนารายณ์มหาราช ในช่วงกรุงศรีอยุธยา เมื่อเจ้าพระยาวิชเยนทร์ถูกตัดสินประหารชีวิตและริบราชบาตรหลังเกิดจลาจลก่อนสิ้นรัชกาลสมเด็จพระนารายณ์มหาราชไม่กี่วัน มารี กีมาร์ ก็สิ้นเนื้อประดาตัว แล้วยังถูกคุมขัง ก่อนจะถูกนำตัวไปเป็นคนรับใช้ในวัง
หลังผ่านความยากลำบากในชีวิต มารี กีมาร์ ก็ได้รับหน้าที่เป็นหัวหน้าห้องเครื่องต้นวิเสทในราชสำนัก ตำแหน่ง ท้าวทองกีบม้า มีหน้าที่คิดค้นสูตรอาหารใหม่ๆ และปรุงอาหารภายในราชสำนัก ที่นี่เองที่ท้าวทองกีบม้าได้ประดิษฐ์ขนมไทยที่นำตำรับเดิมของโปรตุเกสมาประยุกต์กับวัตถุดิบท้องถิ่น จนกลายเป็นขนมไทยหลากชนิด โดยวัตถุดิบหลักที่นำมาทำเป็นขนมนั้น ได้แก่ มะพร้าว แป้ง น้ำตาล แล้วยังสอนเหล่าผู้หญิงในห้องเครื่อง จนตำรับขนมเหล่านี้เป็นที่เผยแพร่และตกทอดสู่คนรุ่นหลัง ทำให้ได้รับการยกย่องเป็นราชินีแห่งขนมไทยนั่นเอง
แต่ๆๆๆๆ พูดกันตามตรงก็ต้องบอกว่าหาข้อสรุปฟันธงไม่ได้ว่า ตกลงขนมไทยที่ท้าวทองกีบม้าทำขึ้นจริงๆ แล้วมีกี่ชนิดกันแน่ เพราะหนังสือตำราประวัติศาสตร์ต่างๆ บอกไว้ไม่เท่ากัน บ้างว่า 12 บ้างว่า 13 บ้างก็ว่า 14 แต่เอาเป็นว่ามีประมาณนี้ค่ะ มากกว่าแค่ขนมตระกูลทองแน่นอน
1. ทองหยิบ
ขนมหวานลักษณะคล้ายดอกไม้ มีสีเหลืองทอง ทำจากไข่แดงนำมาตีให้เนื้อเนียนฟู จากนั้นนำมาหยดลงในน้ำเชื่อม พอสุกแล้วนำขึ้นมาจับจีบให้เหมือนกับดอกไม้ในถ้วยเล็กๆ มีรสหวาน และยังมีความหมายเป็นมงคลสื่อถึงความรุ่งเรือง จึงนิยมนำมาเป็นขนมในงานมงคลต่างๆ
2. ทองหยอด
ขนมหวานลักษณะคล้ายหยดน้ำกลมๆ ขนาดพอดีคำ สีเหลืองทอง ทำจากแป้งผสมกับไข่แดงและน้ำ นำมาหยดลงในน้ำเชื่อมที่เดือดจนแป้งสุก นิยมใช้เป็นขนมในงานมงคลต่างๆ มีความหมายว่าให้ร่ำรวยเงินทอง
3. ฝอยทอง
ขนมหวานลักษณะเป็นเส้นยาวสีเหลืองทอง ทำจากไข่แดงตีฟูใส่ในกรวย ร่อนเป็นเส้นลงในกระทะน้ำเชื่อมเป็นแพ มีความเชื่อกันว่าห้ามตัดเส้นฝอยทอง โดยใช้เป็นขนมมงคลในงานแต่งงานสื่อความหมายถึงการครองรักครองเรือนที่ยาวนาน และมีชีวิตยืนยาวเหมือนเส้นของฝอยทอง
4. ทองพลุ
ดัดแปลงมาจากเอแคลร์ ด้วยการปั้นเป็นก้อนกลม และเปลี่ยนจากการอบเป็นการทอดจนเป็นสีเหลืองทอง ด้านในเป็นโพรง ผิวเรียบ ลักษณะคล้ายหยดน้ำ นำมากินกับน้ำเชื่อม น้ำแดง น้ำผึ้ง หรือนมข้นหวานก็ได้เช่นกัน ปัจจุบันมีการดัดแปลงให้กลายเป็นขนมยัดไส้ เพราะด้านในมีลักษณะเป็นโพรงกว้างจึงทำให้ใส่ไส้ลงไปได้ เช่น ทองพลุไส้ไก่
5. ทองโปร่ง
ขนมทองโปร่งหรือขนมหน้านวลมีสีเหลืองนวล ด้านนอกกรอบ ด้านในโปร่ง มีฟองอากาศของน้ำตาลสีเหลืองอมส้ม ถ้ากินตอนทำใหม่ๆ น้ำตาลจะเยิ้มออกมาคล้ายขนมไม่สุก ซึ่งถือเป็นเอกลักษณ์ของขนมชนิดนี้
6. ทองม้วน
ขนมหวานลักษณะเป็นแผ่นม้วนเป็นวงกลม เนื้อบางกรอบ ส่วนผสมคือ แป้ง มะพร้าว น้ำตาลปี๊บ ไข่ไก่ น้ำมันพืช และงาดำ นำส่วนผสมทุกอย่างมาผสมให้เข้ากัน จากนั้นเทลงในพิมพ์กลมละเลงให้เป็นแผ่นบางๆ รอให้สุกแล้วจึงม้วนเข้าด้วยกัน รอให้แป้งเย็นเป็นอันเสร็จ เป็นอีกหนึ่งขนมมงคลที่มีความหมายถึงการเกาะเกี่ยวเคียงคู่กัน
7. ลูกชุบ
ขนมหน้าตาน่ารักเพราะสามารถปั้นเป็นรูปต่างๆ ได้แล้วยังมีสีสันสดใส ทำจากถั่วเขียวบดกวนนำมาปั้นเป็นรูปร่างต่างๆ ที่เห็นกันบ่อยๆ ก็มักจะเป็นรูปผลไม้ จากนั้นแต่งแต้มสีสันให้สวยและชุบกับวุ้นรอให้แห้ง
8.ขนมผิง
ขนมลักษณะทรงกลมขนาดพอดีคำ ทำจากแป้งผสมกับน้ำตาลแล้วนำไปอบจนกรอบ สีออกนวล น้ำหนักเบา เนื้อกรุบกรอบแต่ละลายในปาก รสหวานละมุน และถูกเชื่อมโยงกับความรักในแง่มุมของความอบอุ่น
9. สัมปันนี
ขนมสัมปันนีหรือสัมปะนี สีสวย รสชาติหวาน จัดเป็นขนมมงคลที่นิยมใช้ในงานแต่งอีกชนิดหนึ่ง เพราะสมัยก่อนเชื่อกันว่า ชื่อขนมสัมปันนีมีความหมายว่า ‘อันเป็นที่รัก’ ปัจจุบันสัมปันนีมีทั้งแบบกรอบและแบบนุ่มละมุนลิ้น
10. หม้อแกง
ขนมไทยพื้นบ้าน เนื้อแน่น มีรสหวานมันจากกะทิ หอมกลิ่นหอมเจียวที่โรยหน้า มีมากมายหลายรสชาติ ทั้งหม้อแกงเผือก หม้อแกงถั่ว หม้อแกงเม็ดบัว
11. สังขยา
ขนมที่ดัดแปลงมาจากคัสตาร์ด ทำจากไข่ น้ำตาล กะทิ นำมากวนให้เข้ากัน รสหวาน หอม จะกินเปล่าๆ หรือกินคู่กับข้าวเหนียวก็จะยิ่งเสริมรสชาติให้กลมกล่อม
12. กะหรี่ปั๊บ
เป็นได้ทั้งของหวานและอาหารคาว ทำจากแป้งสาลี ห่อไส้ที่ผสมผงกะหรี่ พับครึ่ง จีบริมแป้งให้เป็นเกลียวสวยงาม แล้วนำไปทอดในน้ำมัน ไส้มีทั้งรสเค็มและรสหวาน และมีกลิ่นหอมของเครื่องแกงกะหรี่ สันนิษฐานว่าน่าจะดัดแปลงมาจากขนมโปรตุเกสที่เรียกว่าปัสแตล
ภาพ: www.khaosod.co.th/wpapp/uploads/2018/03/maxresdefault-5.jpg / https://www.khaosod.co.th/wpapp/uploads/2018/03/maxresdefault-5.jpg / https://4.bp.blogspot.com/-Ce1N30BZBuA/WmSubLbzaPI/AAAAAAAAAA4/elkc5NWV_gMOezg5-FvG-fRrgk2kUdbdgCLcBGAs/s1600/3ca6ef17b46a416f8e841bdfe0e28479.jpg / https://www.pholfoodmafia.com/wp-content/uploads/2021/08/6Savoury-chicken-in-golden-puff.jpg / https://i.pinimg.com/originals/c6/65/4b/c6654ba14e4d677a7c4574dd7ab79aba.jpg / https://i.pinimg.com/originals/65/5c/66/655c669a121f24e66be50a8e05c34e95.jpg / https://numsups.com/wp-content/uploads/2022/03/%E0%B8%A5%E0%B8%B9%E0%B8%81%E0%B8%8A%E0%B8%B8%E0%B8%9A1.jpg / www.pholfoodmafia.com/wp-content/uploads/2019/03/KanomPingbig.jpg / www.pbs.twimg.com/media/D0GQ_yNUUAAPZip.jpg / https://www.pholfoodmafia.com/wp-content/uploads/2021/06/5Thai-taro-custard.jpg / www.kp-sugargroup.com/_sys/wp-content/uploads/2021/04/6-1.jpg / https://www.pholfoodmafia.com/wp-content/uploads/2020/08/9Sweet-Mung-Bean-Puff.jpg