เมื่อ COVID ทำให้ฉันต้องเข้าครัว!

4,405 VIEWS
PIN

image alternate text
image alternate text
หลายคนเริ่มทำอาหารเพราะเบื่อ เพราะอยากประหยัด ในช่วงเก็บตัวช่วยชาติ แต่กลับค้นพบว่าการเข้าครัวทั้งสนุกและมีความสุข

ออกไปไหนไม่ได้ สั่งอาหารเดลิเวอรี่บ่อยๆ ก็อาจจะหมดตัว บวกกับมีเวลาเหลือเฟือ เราเลยได้เห็นเหล่าคนรู้จักที่ปกติหนึ่งเดือนอาจจะเข้าครัวสัก 1 ครั้ง (หรือบางคนอาจ 3 เดือนครั้ง) ลุกขึ้นมาคว้ากระทะ ตะหลิว หม้อ แสดงฝีมือทำอาหารกินเอง อาจจะขลุกขลักหรือต้องลองผิดลองถูกกันบ้าง แต่จากปากคำของเพื่อนๆ เหล่านี้ ชัดเจนว่าการลงมือทำอาหารเองไม่เพียงแค่ประหยัด สะอาด มั่นใจได้ ยังช่วยบำบัดจิต ทำให้การเก็บตัวในบ้านไม่น่าเบื่อจนเกินไป

ใครอ่านแล้วฮึกเหิมอยากลองสร้างสรรค์เมนูฝีมือตัวเองบ้างแต่ยังงงๆ ไม่รู้ว่าควรเริ่มยังไง เชิญที่ KRUA.CO ได้เลยค่ะ เรามีเมนูอาหารกว่าพันสูตรพร้อมเทคนิคที่จะช่วยให้การเข้าครัวของทุกคนเป็นเรื่องแสนง่าย ขายตรงต้องมาแล้วจุดนี้ ฝากร้านด้วยนะคะ!

ปกติแล้วฝนเป็นคนที่ไม่ค่อยได้ทำอาหารเอง เพราะว่าไลฟ์สไตล์เป็นคนที่มีกิจกรรมนอกบ้านตลอดเวลา ออกไปทำงานตั้งแต่เช้าแล้วก็ถึงบ้านดึก มีหลายครั้งคิดอยากจะเตรียมอาหารไว้ก่อนนอน เพื่อตอนเช้าจะได้เอาไปกินที่กองละคร แต่ผ่านมาราวๆ 7 ปี ตั้งแต่ทำงาน ก็ไม่เคยทำสำเร็จเลย อยากจะทำอาหารคลีนกินตอนไดเอตก็ไม่สำเร็จ บางครั้งมีวันหยุดก็จะออกไปซื้อของมาทำอาหาร ไม่ว่าจะเป็น เส้นสปาเกตตี้ เครื่องปรุงต่างๆ เนื้อสัตว์ สุดท้ายก็ทำได้แค่มื้อเดียว ของต่างๆ ที่ซื้อมาก็ต้องทิ้งเพราะไม่ได้ทำอีกเลย หลังจากนั้นก็ไม่ได้เข้าครัวนานมากๆ เพราะรู้ว่าต้องซื้อของมาทิ้งอีกแล้ว จนมาเจอสถานการณ์ไวรัสระบาด เป็นไฟต์บังคับให้ต้องอยู่บ้าน แถมต้องอยู่คนเดียวด้วย เป็นโอกาสดีที่จะได้เข้าครัว ฝนจึงเลือกซื้อของจากซูเปอร์มาร์เกต มาทำเมนูง่ายๆ ที่จะกินได้ทุกวันและใช้เครื่องปรุงไม่เยอะมาก

สูตรต่างๆ จะหาจาก google ลองเอาหลายๆ เว็บมาเทียบกัน ว่าสูตรไหนง่ายกว่า แล้วเวลาทำก็จะคอยชิมคอยปรุง ถ้าเป็นอาหารเช้าก็จะดูจากร้านอาหาร คาเฟ่ที่เราเคยไปกิน แล้วเป็นเมนูง่ายๆ ก็จะดูแล้วซื้อตาม ไม่ว่าจะเป็น ขนมปังโฮลวีท เนยถั่ว ผลไม้หลากชนิด บางครั้งก็ทำสมูตตี้โยเกิร์ตปั่นใส่ผลไม้

หลังจากมีเวลาเข้าครัว รู้สึกมีความสุขมากๆ เหมือนเราได้ค่อยๆ หยิบนั่นจับนี่ มาสร้างจนเป็นเมนูอาหารที่เราทั้งบอกตัวเองว่าอร่อยและภูมิใจ ตอนเข้าครัวเป็นช่วงที่ทำให้ใจเย็น ไม่คิดฟุ้งซ่าน จดจ่อกับสิ่งที่อยู่ตรงหน้า

คิดว่าอยากจะเข้าครัวแบบนี้ต่อไปเรื่อยๆ ค่ะ

ตอนอยู่ออฟฟิศเก่า ทำอาหารประมาณอาทิตย์ละสามวัน บางวันตื่นทันก็ดริปกาแฟไปกินที่ออฟฟิศด้วย คือเป็นคนชอบการทำอาหารอยู่แล้วประมาณนึง แต่พอย้ายมาทำเอเจนซี่ ช่วงงานพีคๆ นี่เวลาจะซักผ้ายังแทบไม่มีเลย ไม่ต้องพูดถึงทำอาหารเลยอ่ะ แต่ตอนนี้ออฟฟิศให้ work from home ก็เลยมีเวลาทำโน่นทำนี่มากขึ้น ได้กลับมาทำอาหารกินเอง แล้วรู้สึกว่า เฮ้ย นี่เราไม่ได้สนุกแบบนี้มาครึ่งปีกว่าเลยนะ ที่ผ่านมาเรากินอะไรเข้าไปบ้าง แทบไม่ได้คิดเลย คือกินเป็นพิธี ไม่ค่อยได้สนใจเรื่องสารอาหารเลย

เพราะโควิด -19 แหละ บวกกับอาหารเป็นพิษด้วย ความระแวงมันเลยคูณสอง เลยซื้อพวกผัก เนื้อหมู เส้นสปาเกตตีมาเก็บไว้ทำกินเอง พอได้ซื้อเองทำให้เราได้คิดเรื่องสารอาหารที่จะกินเข้าไปมากขึ้น อย่างในหอมีแค่กาน้ำร้อนกับหม้อหุงข้าวเล็กๆ แล้วมันร้อนช้า เวลาผัดก็จะไม่ค่อยสะดวกเท่าไร แต่ยังพอถูไถ พอช่วงนี้ทำบ่อย ก็เริ่มมีความคิดละว่า อยากซื้อกระทะ อยากได้เครื่องปิ้งขนมปังด้วย เลยเถิดอ่ะ ฮ่าๆๆ

ส่วนใหญ่เลยชอบทำต้มๆ กับอาหารพวกผัด อย่างแกงกิมจิ ผัดผัก สูตรตามใจฉันจริงๆ เพราะเราไม่ได้มีครบทุกอย่างตามสูตร มันเลยต้องปรับเองตามความเป็นจริง ซึ่งก็สนุกดี อย่างในรูปคือการทำสปาเกตตีเองครั้งแรง ตื่นเต้น เราว่าการทำอาหารมันทำให้เรามีสมาธิจดจ่ออยู่กับหม้อใบตรงหน้า กับผักที่หั่นว่าหนาไปไหม จะสุกยากหรือเปล่า มันคือความสนุกที่ไม่ได้มีเสียงหัวเราะออกมา แต่มันทำงานกับใจเราตลอดเวลา ตั้งแต่ปรุงจนถึงตอนกินเลย

ที่จริงก่อนหน้านี้ ช่วงที่ยังไม่ได้ยุ่งมากๆ ชอบลองทำอาหารอยู่แล้ว เพราะเป็นคนเรื่องมากเรื่องกิน เลยอยากลองหัดทำเพื่อจะได้เลือกรสชาติที่ตัวเองชอบได้ เลยมีเมนูที่พอทำเป็นอยู่บ้าง ซึ่งทุกเมนูก็ได้มาจากแม่หมด เพราะแม่ทำอาหารอร่อยมาก ติดรสมือแม่มาตั้งแต่เด็ก เราชอบอาหารไทย เลยให้แม่สอนพวกผัดกะเพรา แกงเผ็ดต่างๆ (แต่ยังไม่ถึงขั้นโขลกพริกแกงเองนะ) ก็จำสูตรเหล่านั้นติดหัวมาตลอด

พอถึงช่วงนี้ที่ได้เก็บตัวอยู่กับบ้าน เริ่ม work from home ก็กลายเป็นว่ามีเวลาอยู่กับบ้านมากขึ้น บวกกับอยากจะมั่นใจว่าอาหารมันสะอาดด้วยนิดนึงมั้ง ก็เลยกลับมาทำเอง วันแรกที่คอนโดฯ ประกาศว่ามีผู้ติดเชื้อ คืนนั้นก็ไปเข้าซูเปอร์ฯ ซื้อข้าวสาร ตุนของสดทันทีเลย เดินอยู่ 2 ชั่วโมง ฮ่าๆๆ  ซึ่งก็กลายเป็นดีมาก แอบสนุกนิดหน่อย ได้รื้อฟื้นวิชา ได้กินอาหารทำสดทุกวัน และรสชาติเป็นไปอย่างที่คิด ได้ล้างหม้อล้างจาน ถูห้อง รู้สึกว่าบาลานซ์ชีวิตกลับมาดีขึ้นกว่าช่วงก่อนหน้านี้ที่ทำงานอยู่นอกบ้านจนได้อยู่บ้านแค่นิดเดียว แฮปปี้นะ

ปกติเป็นคนขี้เกียจทำอาหารเพราะเสียเวลาทำงาน แต่พอช่วงนี้ว่างงาน ร้านอาหารที่นี่ทั้งหมดถูกสั่งปิดหน้าร้าน (มีแต่เดลิเวอรี่) ประกาศงดออกจากบ้านถ้าไม่จำเป็น สถานการณ์มันบังคับให้ต้องทำอาหารเอง เพราะต้องประหยัด สั่งอาหารนอกบ้านทุกมื้อโดยไม่มีรายได้ก็ไม่ไหว (สั่งอาหารที่นิวยอร์กมื้อหนึ่งไม่ต่ำกว่า $15)

รูมเมทในบ้านก็คุยกันทุกวันว่าอยากกินอะไร โชคดีที่เป็นคนไทยกันเกือบหมด (มีชาวอเมริกันที่เป็นแฟนเพื่อนคนไทย1คน) เมนูที่ส่วนใหญ่เป็นอาหารไทยที่ทำไม่ยาก เช่น ยำวุ้นเส้น กะหล่ำปลีทอดน้ำปลา น้ำตกหมู สุกี้แห้ง สูตรก็หาจากในเน็ตเลย แต่บางเมนูก็มีหลายสูตร สุดท้ายก็ใช้สูตรมั่ว ฮ่าๆๆ แต่ก็อร่อยอยู่นะ อิอิ

ทุกวันก็จะช่วยกันทำอาหารทั้งมื้อกลางวันและมื้อเย็น ผลัดกันเตรียม ผลัดกันปรุง ผลัดกันชิม เป็นกิจกรรมประจำวันในทุกๆ วัน สนุกดี แก้เบื่อยามว่างได้ดี หลังจากนี้คิดว่าน่าจะทำอาหารเก่งกันขึ้นทุกคน แม่ของพวกเราต้องภูมิใจ ฮ่าๆๆ

ปกติไม่ได้ทำอาหารกินเองค่ะ นาน ๆ จะทำสักครั้งหนึ่ง ทำได้วัน 2 วันก็เลิก แต่ช่วงนี้สถานการณ์มันบีบ ที่ลุกมาทำเองเพราะไม่ไว้ใจความสะอาด เมื่อก่อนชอบกินส้มตำมาก แทบจะกินวันเว้นวัน พอมีโควิด19 ไม่กล้าซื้อเลย แทบจะลงแดงเพราะขาดส้มตำ แล้วพอเลี่ยงไปกินอาหารร้อนๆ อย่างก๋วยเตี๋ยว แต่ก็ไปเห็นแม่ค้าเอามือจับหมูแดงมาโปะใส่จานให้เราอีก ฟางเส้นสุดท้ายจริงๆ ที่ทำให้ลุกขึ้นมาทำเองหมดคือ วันนั้นไปกินร้านตามสั่งที่คอนโดฯ ปรกติคนน้อยไม่แออัด ส่วนใหญ่เป็นลูกค้าคนเดียวในร้าน เลยวางใจไม่ใส่หน้ากาก ดันมีลูกค้าอีกโต๊ะมานั่งกินด้วย แล้วเค้าจามเสียงดังลั่นแล้วไม่ใส่หน้ากาก ไม่ปิดปาก เราเลยผวากลัวติดโควิด เพราะคิดว่าแม่ค้าคงไม่เช็ดโต๊ะหลังจากลูกค้าลุกไปแน่ๆ ทำให้ตัดสินใจเลิกซื้ออาหารเด็ดขาดค่ะ

อีกอย่างทำอาหารกินเอง คือทำตามหลัก social distancing เพราะไม่งั้นก็จะต้องออกไปซื้ออาหารเป็นประจำทุกมื้อ หรืออย่างน้อยวันละ 1-2 ครั้ง (ปรกติเป็นคนไม่สั่งอาหารเดลิเวอรี่ค่ะ) พอทำกินเองแล้ว อาทิตย์นึงเราค่อยออกไปซื้อกับข้าวมาครั้งนึง เมนูที่เลือกทำก็จะเป็นเมนูง่ายๆ ที่ทำได้แล้วถูกปาก สูตรก็จำมาจากที่เคยเห็นแม่ทำบ้าง ใช้เซนส์บ้าง ฮ่าๆๆ แล้วก็เปิดเน็ตเอาค่ะ ดูหลายๆ ที่เทียบกัน ตอนนี้ปลูกถั่วงอกกินเองแล้วเอาไปผัดน้ำมันหอยด้วย แกงเหลืองยอดมะพร้าวก็มี ซุปเต้าเจี้ยวนี่ทำบ่อยไว้ซดคล่องคอ ดี นี่กำลังจะทำซุปเต้าหู้กิมจิแบบเกาหลีตามสูตรในซีรีส์ Itaewon Class ด้วย ฮ่าๆ

ทำอาหารเอง รู้สึกว่าวุ่นวาย กว่าจะได้กิน หิวซ่กเลย แล้วตอนเก็บล้างอีก แต่ทุกวันนี้เหมือนจะปรับตัวได้แล้ว กลายเป็นเรื่องสนุกในการคิดหาเมนูที่จะทำแต่ละวัน มีถึงขนาดเสิร์ชหาวิธีถนอมอาหาร พวกทำยังไงถึงจะเก็บกะเพรา ต้นหอม ผักชี เอาไว้กินได้นานๆ ไม่ให้มันเน่าไปเสียก่อน อย่างวันนี้ปั่นงานเสร็จชิ้นหนึ่งก็แวบไปหมักหมูแช่น้ำปลาทิ้งไว้แล้วกลับมานั่งทำงานต่อ พอเสร็จงานก็ได้เวลาทอดหมูกินข้าวพอดีเลยค่ะ

นี่พี่สาวมาเล่าให้ฟังว่าโดนแม่ปรามาสเอาไว้ว่า มันจะทำไปได้ซักกี่มื้อ เดี๋ยวก็เลิกทำ 55555 แต่สรุปว่าตอนนี้ทำมาจะ 2 อาทิตย์แล้วค่ะ แล้วรู้สึกว่าปรับตัวได้มากขึ้น กลายเป็นเรื่องสนุกไปแล้ว แล้วมันช่วยให้ผ่อนคลายจากการนั่งทำงานอยู่หน้าจออย่างเดียวด้วย

จริงๆ ตอนเด็กๆ ชอบทำอาหารนะ แต่พอโตมาสักพักเวลาน้อยลงไม่ได้เข้าครัวอีกเลย ช่วงเก็บตัว ไม่ได้คิดจะอยากทำ แต่บังเอิญเป็นช่วงที่พี่เลี้ยงเรากลับบ้าน แล้วถูกกักตัวไว้ที่ต่างจังหวัดกลับมาไม่ได้ พอตื่นเช้ามาจะต้องรีบประชุมออนไลน์ จะสั่งอาหารทางออนไลน์ก็ไม่ค่อยถนัด ปุ่มมันเยอะ แถมจะสั่งก็ไถนานอีก คิดภาพออกใช่มั้ย ตัวเลือกแม่งเยอะไป อยากกินเต็มไปหมด ตัดปัญหาโดยการทำเองเลยละกัน!

วิธีเลือกเมนูที่จะทำก็คือ จะเป็นคือเมนูที่ทำง่ายๆ เบอร์แบบ ไม่หั่นเนื้อสัตว์อ่ะ เพราะพื้นฐานกลัวมีดกลัวเลือด ตอนเด็กๆ นิ้วโป้งเกือบขาดมาแล้วเลยกลัว ข้อสองก็ เวลาเดินซูเปอร์ฯ มองอะไรแล้วสปาร์คก็เอาอันนั้นมาทำแหละ เจ้าอารมณ์นิดนึง เช่น มักกะโรนีรูปสัตว์ ตอนเด็กแม่น่าจะไม่ให้ซื้อให้มั้ง จับปุ๊ปสปาร์คเลย อยากได้มาก กับมักกะโรเกลียวที่มีสามสีอ่ะ แดง เขียว เหลือง กรี๊ดเลย เพราะที่บ้านซื้อแบบสีเดียวตลอด แล้วก็ของสนองนี้ด ที่เคยเห็นตาม Pinterest แล้วอยากกิน แบบผัก rocket อะโวคาโด้ สูตรทำอาหารก็จะเดินไปถามคนในบ้าน สนุกดีนะ มักกะโรนีต้มนานแค่ไหน มักกะโรนีผัดซอส ใส่ไช่หรือใส่ซอสก่อน อยากกินชะอม มันรูดยังไง แอบได้สานสัมพันธ์ในบ้านเบาๆ ทำออกมากินได้หมดนะ อร่อยไม่แบ่งใคร กลัวแบ่งแล้วเค้าจะรู้ว่าไม่อร่อย

ปกติเป็นช่างภาพค่ะ แต่ตอนนี้อยู่บ้านมาเกือบเดือนแล้ว เพราะว่างานเลื่อนทั้งหมด ทั้งกองโฆษณาและกองถ่าย เพราะสมาคมวิชาชีพสื่อมวลชนก็ออกมาขอความร่วมมือให้กองถ่ายใหญ่ๆ หลีกเลี่ยงการทำงานในช่วงนี้ด้วย ก็เลยได้ทำอาหารบ่อยขึ้นมากค่ะ เรียกว่าช่วงนี้ทำกินเองแทบจะทุกมื้อเลย

สิ่งที่เปลี่ยนไปก็คือต้องวางแผนเมนูมากขึ้น เพราะไม่อยากออกไปซื้อของบ่อยๆ ปกติคิดไว้สัก 3 เมนูแล้วค่อยออกไปซื้อ โดย 3 เมนูนี้อาจจะทำวันเว้นวัน แต่ช่วงนี้ต้องวางแผนเมนูทั้งอาทิตย์แล้วซื้อของทีเดียวเลย อะไรเสียง่ายก็หยิบมาทำก่อน ส่วนแผนสำรองก็คือสั่งออนไลน์จากเว็บไซต์ต่างๆ เดี๋ยวนี้กลุ่มตลาดออร์แกนิกก็มีบริการที่เกษตรกรมาส่งถึงมือคนซื้อเองเลยด้วย ดีที่เรายังพอมีทางเลือกบ้างในสถานการณ์แบบนี้ค่ะ

ปกติในชีวิตประจำจะไม่ได้เข้าครัวทำอาหารเลย ถ้าทำอาหารจะเป็นวันพิเศษหรือมีอะไรพิเศษถึงจะทำ เรามองว่าการทำอาหารเป็นพิธีกรรมอย่างนึง (หัวเราะ) พอช่วงนี้ที่ต้องหยุดอยู่บ้านมากขึ้น ก็หันมาเข้าครัวทำกับข้าวมากขึ้น เหตุผลหนึ่งก็คือพยายามหากิจกรรมอะไรทำมากขึ้น เพื่อลดความเครียด แล้วอีกอย่างเริ่มรู้สึกว่าค่าสั่งอาหารมันแพงขึ้นทุกทีๆ เลยสลับๆ กันไป สั่งอาหารบ้าง ทำกับข้าวกินเองบ้าง

จริงๆ ปัญหาหลักในการทำอาหารของเราคือการไปจ่ายตลาด เพราะเป็นเรื่องที่เหนื่อยสำหรับเรามาก บางทีหาซื้อวัตถุดิบได้ที่ตลาดสด แต่ของบางอย่างอาจหาได้ที่ซูเปอร์มาร์เก็ตอะไรแบบนี้ แต่พอเริ่มไปบ่อยๆ เราก็จะเริ่มจับทาง ก็จะพยายามจัดการว่าถ้าวันนี้ไปตลาดสดต้องซื้ออะไร ถ้าไปซูเปอร์มาร์เก็ตต้องหาซื้ออะไร และช่วงนี้ก็คงทำอาหารบ่อยขึ้น เพราะบางทีมีเมนูที่เราชอบกิน บางร้านมันออกไปกินไม่ได้ หรือหาซื้อได้ยากขึ้น เราก็จะไปหาสูตรเอามาเก็บไว้ วันไหนอยากกินก็จะเอามาลองทำดู คิดว่ากว่าสถานการณ์โควิด 19 จะดีขึ้นน่าจะทำอาหารเก่งขึ้นเยอะ

เมื่อมหาวิทยาลัยประกาศปิดคณะ ย้ายทุกอย่างมาเรียนออนไลน์ เราเป็นเด็กต่างจังหวัดที่เข้ามาเรียนในกรุงเทพฯ แต่บ้านต่างจังหวัดไม่มีอินเทอร์เน็ต จึงจำเป็นต้องอยู่คอนโดฯ ที่กรุงเทพต่อเพื่อเรียนหนังสือ การซื้ออาหารนอกคณะกินจะทำให้ค่าครองชีพของเราเพิ่มสูงขึ้นมาก ประกอบกับความไม่อยากออกจากห้องบ่อย เราเลยเลือกที่จะทำอาหารเอง และจากประสบการณ์ลูกมือคุณยายกว่ายี่สิบปี บ้าบอ อาหารที่เราทำรสชาติคล้ายอาหารคุณยายยังกับแกะ

ไก่เหล้าแดงส่งกลิ่นแอลกอฮอล์ แกงจืดมะนาวดองที่ยิ่งเก็บยิ่งเปรี้ยวอร่อย ไชโป้วผัดไข่เกรียมนิดๆ หรือแม้แต่ขนาดความสุกของไข่ลวก โดยสัญชาตญาณ เราทำอาหารด้วยวิธีเดียวที่เรารู้จัก คือวิธีแบบที่บ้าน เราใส่บางอย่างที่เราอยากกินเพิ่มเข้าไปบ้าง หรือใช้บางอย่างที่มีอยู่แทนวัตถุดิบที่ขี้เกียจซื้อบ้าง (เช่นการทำไก่เหล้าแดง ที่เราใส่แครอทกับข้าวโพดอ่อนเพิ่ม และใช้เหล้าพุทราดองเองแทนเหล้าจีน) แต่สุดท้ายทุกอย่างก็ออกมาก็เป็นรสชาติแบบที่คุ้นเคยอยู่ดี นั่นทำให้ทุกครั้งที่ได้กิน มันเป็นความรู้สึกทั้งภูมิใจ ดีใจ อิ่มใจ ระคนอบอุ่นใจไปในคราวเดียวกัน

เพราะอาหารของคุณยายไม่ได้มีความหมายแค่การอิ่มท้อง เราว่า เราเลยเกิดมิกซ์ฟีลลิ่งมากมายขนาดนั้น มันมากกว่าแค่อร่อย อาหารคุณยายหมายถึงช่วงเวลาที่ทุกคนจะเข้าไปช่วยกันหั่นช่วยกันผัดในครัว แล้วก็คุยกันสัพเพเหระ การเอาอาหารมาให้คุณก๋งกินแล้วรอฟังว่าคุณก๋งจะชอบไหม หรือตอนที่ตักแกงจืดเป็นจานกลาง เผื่อคนที่จะมากินต่อ บางทีอาจเป็นเหล่านั้นต่างหากที่เราโหยหาที่สุด และเมื่อเราได้กินอาหารรสชาติแบบคุณยายผ่านฝีมือตัวเอง มันจึงเหมือนการได้พาตัวเองกลับไปอยู่กับครอบครัวสักวันละนิดละหน่อย

สำหรับเรา การทำอาหารเองจึงไม่ใช่แค่การประทังปากท้อง แต่มันคือการประทังความคิดถึงบ้าน

RECOMMENDED ARTICLES
RECOMMENDED VIDEOS