ใครชอบกินบิงซูน่าจะต้องเคยได้ยินชื่อ ‘อินจอลมี’ กันบ้าง เพราะเป็นหนึ่งในรสชาติที่มีให้เลือกสั่ง ตัวฉันเองสมัยกินบิงซูแรกๆ ก็เลือกสั่งอินจอลมีนี่แหละค่ะ เพราะชื่อแสนจะเกาลี้เกาหลี ผิดจากพวกเมล่อนบิงซู สตรอว์เบอร์รีบิงซู หรือบลูเบอรี่ชีสบิงซูที่ได้ยินชื่อเราก็นึกออกว่ามันหน้าตารสชาติประมาณไหน ครั้งแรกที่ได้อินจอลมีบิงซูมาก็นั่งพินิจพิจารณาว่ามันคืออะไร ก่อนจะได้ข้อสรุปว่ามันคือแป้งต๊อกผสมกับผงถั่ว รสชาติหวานน้อย (มาก) และมันจากผงถั่วที่ละเอียดยิบแบบฉันเคยสำลักผงถั่วให้อับอายขายขี้หน้ากลางร้านบิงซูที่ซิลลิมมาแล้ว เพราะเขาโรยผงถั่วมาเยอะมาก และผงก็ละเอียดมาก กินไม่ทันระวังก็เข้าคอแบบให้ต้องไอกันจนชาวเกาหันมองทั้งร้านเลยทีเดียว
ซึ่งจริงๆ แล้วอินจอลมีก็คือแป้งต๊อกชนิดหนึ่งนั่นละค่ะ เป็นต๊อกแบบที่เรียกว่า ‘ชีนึนต๊อก’ หรือ ‘ต๊อกทุบ’ ที่จะนำแป้งข้าวเจ้าหรือข้าวเหนียวมาผ่านกระบวนการสีข้าวหรือนำเปลือกออก ก่อนจะนำไปนึ่งในภาชนะที่เรียกว่าซีรู แล้วนำไปตำหรือทุบด้วยเครื่องมือที่เรียกว่าจอลกูและจอลกุซคงอี หน้าตาเป็นครกไม้ขนาดใหญ่ ใช้คู่กับอันบันหรือสากไม้ และต๊อกเม-กระดานไม้และค้อนทุบ ต๊อกในกลุ่มนี้เมื่อผ่านกระบวนการทุบหรือตำแล้ว จะนำไปผสมกับส่วนผสม ปรุงรส ใส่สีธรรมชาติ หรือบางทีก็มีการใส่ไส้ แล้วก็ต้องนำไปนึ่ง ต้ม หรือทอดอย่างใดอย่างหนึ่งให้สุกเพื่อรับประทาน
อินจอลมีเป็นต๊อกที่ได้จากการนึ่งแป้งข้าวเหนียว ก่อนจะนำมาทุบให้เหนียว โดยจะใส่ผงถั่วแดงหรือผงถั่วเหลืองบดละเอียดผสมลงไปในขณะที่ตำหรือทุบ จากนั้นจึงนำมาตัดเป็นชิ้นขนาดเล็กๆ และเพราะใส่ส่วนผสมจำพวกถั่วหรืองาลงไปในขณะตำหรือทุบแป้ง เมื่อเสร็จแล้วจึงมักจะนำมาคลุกหรือเคลือบด้วยผงถั่วอีกครั้ง หรือในบางครั้งก็อาจไม่ได้มีการใส่ผงถั่วแดงหรือผงถั่วเหลืองในขณะที่ตำ แต่จะใช้เป็นผงโรยบนตัวต๊อกแทนในขั้นตอนสุดท้าย ซึ่งก็มีชื่อเรียกแยกย่อยแตกต่างกันตามส่วนผสมที่ใส่ลงไป เช่น พาตินจอลมี เป็นต๊อกที่ได้จากแป้งข้าวเหนียวผสมกับถั่วแดงบด แกอินจอลมี เป็นต๊อกที่ผสมด้วยงาบด ซุคอินจอลมี เป็นต๊อกที่ผสมด้วยสมุนไพรจิงจูฉ่ายเกาหลีบด ส่วนความหวานนั้นได้มาจากการคลุกน้ำตาลทรายป่นในขั้นตอนสุดท้ายเช่นกัน
ความที่ทำง่าย วัตถุดิบน้อย ขั้นตอนไม่ยุ่งยาก อินจอลมีจึงเป็นขนมที่ชาวเกาหลีนิยมทำกินกันมาตั้งแต่โบร่ำโบราณ เรียกว่าเป็นขนมดั้งเดิมเลยก็ว่าได้ และด้วยเอกลักษณ์คือเนื้อแป้งที่นุ่มนิ่มเหนียวหนึบกว่าต๊อกทั่วไป ผสมความหอมมันของผงถั่ว ผสานความหวานน้อยๆ จากน้ำตาลทราย รวมเข้ากับคุณภาพของแป้งต๊อกที่แม้ขั้นตอนจะง่าย แต่เขาทำกันอย่างพิถีพิถัน อินจอลมีจึงถูกนำมาใช้เป็นของว่างไว้กินเล่นในงานเลี้ยงสำคัญต่างๆ แถมความที่ดัดแปลงง่าย อย่างเช่นนอกจากจะคลุกผงถั่ว ยังสามารถคลุกกับส่วนผสมอื่นๆ อย่างเมล็ดงาก็ได้ หรือจะคลุกด้วยผลไม้อย่างพุทราหั่นแห้งก็ได้ ปัจจุบันอินจอลมีเลยถูกนำมาดัดแปลงกินคู่กับขนมหวานอื่นๆ อย่างหลากหลาย โดยที่เราเห็นกันบ่อยๆ ก็คืออินจอลมีบิงซู น้ำแข็งเกล็ดละเอียดยิบนุ่มนิ่มที่มากับแป้งต๊อกเหนียวนุ่มและผงถั่วหวานมันแสนอร่อยนั่นเอง
ที่สำคัญ นอกจากความอร่อย อินจอลมียังมีประโยชน์ต่อสุขภาพอีกด้วย เพราะย่อยง่ายและมีคุณค่าทางโภชนาการ
ไหนๆ ก็เล่าเรื่องอินจอลมีให้น้ำลายไหลมาขนาดนี้แล้ว ขอปิดท้ายด้วยการแจกสูตรอินจอลมีให้ชาวครัวนำไปทำกินเองที่บ้านด้วยซะเลย รับรองว่าถ้าได้สัมผัสความนุ่มนิ่มเหนียวหนึบของน้อง เหล่าธิดาคาร์โบฯ จะต้องอินเลิฟอินจอลมีเหมือนฉันแน่ๆ สำลักผงถั่วก็หยุดเราไม่ได้!
อินจอลมี
จำนวน 20 ชิ้น
แป้งข้าวเหนียว 150 กรัม
น้ำตาลทราย 30 กรัม
เกลือป่น ½ ช้อนชา
น้ำร้อน 1 ถ้วย
น้ำตาลทรายแดงและผงคินาโกะ (ผงถั่วเหลืองคั่วป่น) สำหรับโรย
อุปกรณ์ ชามแก้วสำหรับเข้าไมโครเวฟ, สเครปเปอร์ สำหรับตัดแป้ง
วิธีทำ
1. ทำแป้งอินจอลมีโดยใส่แป้งข้าวเหนียว น้ำตาลทราย เกลือป่น และน้ำร้อนลงในอ่างแก้ว คนให้เข้ากัน ปิดอ่างผสมด้วยพลาสติกแรป นำเข้าไมโครเวฟไฟแรง 2 นาที นำออกมา ใช้พายไม้คนแป้งให้เข้ากัน ปิดอ่างผสมด้วยพลาสติกแรปอีกครั้ง นำเข้าไมโครเวฟอีก 2 นาทีจนแป้งสุกมีลักษณะนิ่มใส นำออกมาคนให้เข้ากันอีกครั้ง
2. เทแป้งลงบนเขียงที่โรยด้วยน้ำตาลทรายแดงและผงคินาโกะ จากนั้นโรยทับด้วยน้ำตาลทรายแดงและผงคินาโกะให้ทั่วแป้ง จับแป้งให้เป็นทรงสี่เหลี่ยม ตัดแป้งให้มีขนาดเล็กๆ พอดีคำ คลุกกับผงที่โรยให้ทั่วอีกครั้ง แค่นี้ก็เรียบร้อย จัดใส่จานเสิร์ฟได้เลย
ที่มา: https://www.asiancastles.com/2015/01/blog-post_2.html
