‘เกาะผ้า’ เป็นเกาะเล็กๆ ที่หายไปจากแผนที่โลก และถูกแทนที่ด้วยสันทรายขาวละเอียดเป็นทางเดินยาวขนาบน้ำทะเลสีใสไล่เลเยอร์ฟ้าครามเขียวสวยงามราวเกาะสวรรค์ คือความมหัศจรรย์ที่สร้างขึ้นโดยภัยธรรมชาติอย่าง ‘สึนามิ’ ทำให้หลายคนตีตั๋วมาพังงา และปักหมุดมายังเกาะแห่งนี้
ในอดีตเกาะผ้าเป็นเกาะที่มีขนาดราว 4-5 ไร่ เป็นส่วนหนึ่งของเกาะคอเขา อ.ตะกั่วป่า จ.พังงา ที่มีต้นไม้ทั้งต้นสน ต้นมะพร้าวขึ้นอยู่จำนวนมาก เป็นเกาะเงียบสงบที่นักท่องเที่ยวมักแวะเวียนมาพักผ่อนนอนอาบแดด กระทั่งในปี 2547 ที่ภัยธรรมชาติอย่างแผ่นดินไหวและคลื่นยักษ์สึนามิได้พัดพาทุกสิ่งบนเกาะนี้จมหายไปจากแผนที่โลก เหลือเพียงสันทรายทอดยาวราวผืนผ้าที่โผล่พ้นน้ำมาเฉพาะช่วงเวลาที่น้ำทะเลลดลงได้ระดับ ยิ่งน้ำลดลงมากเท่าไรเนื้อที่บนเกาะผ้าก็จะมากขึ้น บางครั้งจึงเห็นเป็น 3 เกาะที่เชื่อมกันด้วยทางเดินทราย ความยาวราว 1 กิโลเมตร คล้ายทะเลแหวก
แม้ชาวบ้านจะพยายามนำต้นไม้มาปลูกใหม่เพื่อให้เกาะกลับมาเหมือนเดิม แต่ไม่ว่าจะปลูกยังไง ต้นไม้ก็ไม่รอดเพราะในทุกๆ วันเมื่อถึงเวลาน้ำขึ้นเกาะแห่งนี้ก็หลับใหลอยู่ใต้น้ำอีกครั้ง สุดท้ายทุกคนก็ต้องยอมรับธรรมชาติที่เปลี่ยนไป ไม่มีสิ่งใดฝืนธรรมชาติได้
ทั้งหมดคือความเป็นมาของเกาะผ้าที่พี่ไกด์เล่าให้เราฟังขณะล่องเรือออกจากเกาะคอเขา เวลากว่า 40 นาทีที่ล่องเรือพร้อมๆ กับทำความรู้จักเกาะผ้าจึงไม่รู้สึกเบื่อเลยสักนิด ในที่สุดสันทรายสีขาวตัดกับน้ำทะเลก็ปรากฏอยู่เบื้องหน้าเรา วันนี้อากาศเป็นใจ ท้องฟ้าสดใส คลื่นสงบ นอกจากจะมาถูกจังหวะเวลาน้ำลด พี่ไกด์ยังบอกให้เรารู้สึกว่ามากับดวง
‘โชคดีมากเลยนะ ถือว่าเป็นวันหนึ่งที่เกาะผ้าสวยสุดๆ เลย’
เกาะผ้าสวยสมคำร่ำลือ เราใช้เวลาเดินเล่น ซึมซับบรรยากาศและเก็บภาพเป็นที่ระลึก รวมทั้งภาพสวยมุมสูงด้วย drone อยู่สักพัก ระดับน้ำก็ค่อยๆ ไล่จนพื้นที่สันทรายบีบเข้าหากันเรื่อยๆ คาดว่าอีกไม่เกิน 2 ชั่วโมง น้ำจะขึ้นจนสันทรายหายไป
ตำแหน่งเรือพวกเราจอดคือเกาะตรงกลาง พี่ไกด์เล่าว่าช่วงเช้าตรู่ที่น้ำลดมาก ชาวบ้านจะออกเรือและมาหา ‘หมึกโวยวาย’ หรือหมึกสายบริเวณเกาะผ้าที่อยู่ทางฝั่งซ้าย เป็นหมึกที่พบได้มากเฉพาะอำเภอตะกั่วป่า ชื่อหมึกที่แสนจะน่ารักนี้มาจากอากัปกิริยาหนวดหมึกที่ยั้วะเยี้ยขัดขืนเวลาโดนจับ อารมณ์แบบ “อย่ามาจับฉันนะ” และหมึกโวยวายนี่ละเป็นที่มาของเมนูโอชะอย่าง ‘หมึกต้มน้ำดำ’ พอต้มหมึกทั้งตัวก็จะปล่อยหมึกออกมาตามสัญชาตญาณ แต่หมึกโวยวายหากินยากด้วยวิธีจับที่ต้องรอระดับน้ำลด เพราะมักอาศัยตามโขดหิน ซากปะการัง จึงนิยมใช้หมึกกล้วยแทน หากเจอเมนูหมึกโวยวายต้มน้ำดำที่ไหนก็ลองสั่งมากินกันดูนะคะ
เราใช้เวลาเดินเล่นเก็บภาพสวยๆ ราวชั่วโมง และล่องเรือออกมาจากเกาะผ้าไม่ไกล ก่อนหยุดเรือให้เพื่อนๆ ร่วมทริปได้ดำน้ำตื้น ชื่นชมปะการัง ดูปลาการ์ตูน เหล่านักดำน้ำจะรู้กันว่า ที่นี่เป็นอีกจุดดำน้ำที่อุดมสมบูรณ์มากๆ
ฉันเองถึงไม่ได้กระโจนลงน้ำอย่างใครเขา เพราะว่ายน้ำไม่เป็นและกลัวน้ำสุดๆ! จึงมองปะการังผ่านผิวน้ำนี่ละค่ะ ก็น้ำที่นี่มันใสซะจนมองเห็นปะการังแผ่กิ่งก้าน (เขาเรียกกิ่งก้านใช่มั้ย?) มีฝูงปลาตัวน้อยว่ายไปว่ายมาวูบวาบให้เห็น แล้วก็มีเพื่อนใจดีเก็บภาพปลาการ์ตูนน่ารักๆ หรือที่ใครๆ เรียกตามชื่อการ์ตูนว่า ‘นีโม่’ มาฝาก
ถือเป็นช่วงเวลาสั้นๆ บนเกาะผ้าที่ประทับใจมาก
สำหรับฉัน ‘เกาะผ้า’ เป็นเกาะลึกลับที่ถูกกำหนดด้วยระดับน้ำ ยามน้ำลดความสวยงามก็ปรากฏอยู่ตรงหน้า และเพราะเป็นเกาะที่สรรสร้างขึ้นจากภัยธรรมชาติ จึงคาดการณ์ว่าอาจจมหายไปอย่างถาวรในอีก 10 ปี ด้วยระดับน้ำทะเลสูงขึ้นจากสภาวะอากาศเปลี่ยนแปลง ‘เกาะผ้า’ จึงเสมือนการส่งสารจากธรรมชาติถึงเราว่า ‘เราฝืนธรรมชาติไม่ได้ แต่อยู่กับธรรมชาติที่เปลี่ยนไปได้ด้วยความเข้าใจ และไม่ทำร้ายธรรมชาติไปมากกว่านี้ เพราะความเปลี่ยนแปลงนั้นอาจมาจากกระทำเล็กๆ ของมนุษย์เรานี่ละค่ะ’
เรอดัง พังงา ร้านอาหารทะเลและอาหารพื้นบ้านที่ห้ามพลาด!
นอกจากความสวยงามของธรรมชาติ ไฮไลต์ของการเที่ยว ก็คือเวลา ‘กิน’ นี่ละค่ะ
กลับขึ้นจากเกาะ เราเจาะจงมากินมื้อเที่ยงที่ร้าน ‘เรอดัง’ เขาหลัก ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากเกาะผ้า ตรงข้ามที่ทำการเทศบาลลำแก่น ขับรถราว 20 นาทีถึง เป็นร้านบ้านๆ ริมทางที่ขายอาหารทะเลและอาหารพื้นบ้านพังงา ปรุงด้วยวัตถุดิบสดใหม่ รสชาติจัดจ้านถึงใจ วัตถุดิบทะเลก็มาสดๆ จากประมงพื้นบ้าน แต่ละวันได้อะไรมาก็จะเขียนป้ายบอกไว้ให้ลูกค้าได้เลือก ซึ่งเมื่อเกือบ 3 ปีก่อน เราเคยมากินร้านนี้ตามคำแนะนำของคนพื้นที่ และติดอกติดใจจนตั้งปณิธานว่า ถ้าได้มาพังงาอีกนะ จะต้องมากินร้านเรอดังให้ได้ — อร่อยจนเก็บไปฝัน
บรรยากาศร้านยังเหมือนเดิมเช่นเมื่อ 3 ปีก่อน แต่มีรางวัลการันตีความอร่อยอย่าง ‘มิชลิน บิบ กูร์มองด์’ ปี 2022 (Michelin Bib Gourmand Thailand 2022) เพิ่มเข้ามา ยิ่งทำให้ร้านเป็นที่รู้จักมากขึ้นไปอีก แต่วางใจได้ค่ะ คนจะมากขึ้นแค่ไหน คุณป้าเจ้าของร้านบอกว่าจะยังคงรักษามาตรฐานเดิมไว้ไม่มีตก ปรุงเองทุกจาน และฝากให้คนมากินเข้าใจกันด้วย หากต้องรออาหารสักหน่อย
แนะนำว่าอย่ามาตอนหิวจัดเด็ดขาดค่ะ และที่ร้านไม่รับจองโต๊ะล่วงหน้า
วันที่เรามาเป็นวันธรรมดา คนไม่แน่นร้าน เราเลยไม่ต้องหิ้วท้องรอ สักพักอาหารก็มาเต็มโต๊ะ เริ่มกันที่ แกงส้มยอดมะพร้าวอ่อนปลากะพงแดง รสชาติเข้มข้นถึงเครื่องแกง เปรี้ยวจัดจ้าน ยอดมะพร้าวอ่อนกัดกรุบหวานเข้ากับน้ำแกง ยิ่งเนื้อปลากะพงแดงคือหนึบแน่นเด้งสู้ฟัน ไม่เหมือนกะพงเลี้ยงเลยนะ เหมือนเรากินปลานักกล้ามอยู่อ่ะ เนื้อแน่นๆ เลย ต้องสั่งนะถ้วยนี้
กรรเชียงปูผัดต้นหอม เป็นอีกจานที่มิชลินแนะนำเช่นเดียวกับแกงส้ม เนื้อปูก้อนโตๆ ผัดกับต้นหอมและไข่ เนื้อปูสดหวานมาก ผัดมารสชาติกลมกล่อมหอมกลิ่นน้ำมันงานิดๆ อร่อยกินเพลินเลย จานนี้เด็กๆ ต้องชอบเพราะไม่เผ็ด ผู้ใหญ่ก็ชอบนะ ปูหวานชิ้นโต อดใจไม่ไหวหรอก
สลับมาที่จานเผ็ดถึงเครื่องแกงอย่าง แกงพริกหมู เป็นอีกเมนูโปรดที่อยากแนะนำทุกคนมากค่ะ ราชาติเผ็ดร้อนหอมเครื่องแกงและพริกไทยดำ กับหมูสามชั้นหั่นชิ้นเล็กที่ต้มมางวดจนพริกแกงเข้าเนื้อ เป็นเผ็ดสดชื่น กินแล้วเจริญอาหาร ทำให้เวียนไปกินจานอื่นต่อได้แบบแฮปปี้ แล้วก็อยากจะวนกลับมาตักจานนี้ซ้ำๆ
เผ็ดแล้วก็แก้เผ็ดด้วย กุ้งลายเสือราดซอสมะขาม กุ้งตัวเท่าฝ่ามือเนื้อแน่นมาก หนึบสู้ฟัน แบ่งกันคนละตัวเต็มปากเต็มคำ เต็มอิ่ม ตัวซอสรสชาติเปรี้ยวหวาน ชอบที่มีเม็ดมะม่วงหิมพานต์กับกระเทียมเจียวสดใหม่กรอบๆ โรยเพิ่มความหอมมาด้วย
ใบเหลียงผัดไข่ รสชาติมาตรฐานความอร่อย กระหล่ำปลีผัดน้ำปลา เมนูธรรมดาที่ไม่ธรรมดาเพราะหากินอร่อยยาก จานนี้ทำมาได้ดีเลยกระหล่ำปลีเกรียมนิดๆ หอมกลิ่นกระทะและน้ำปลาดีมากๆ รสกลมกล่อมกินเพลิน อีกเมนูที่น่าจะถูกใจเด็กๆ คือ หมูคั่วเกลือ เนื้อหมูทอดมานุ่ม ฉ่ำ เค็มกำลังดี
โดยรวมอาหารที่ร้านเรอดังยังอร่อยเหมือนเดิม รสจัดจ้านถึงใจแต่ก็เป็นความเผ็ดในระดับที่กินได้ชิลล์ๆ เลยค่ะ อาหารทะเลสดคุณภาพดีมาก ราคาย่อมเยา เป็นร้านที่ถ้าใครมาพังงา แล้วมาเที่ยวแถบเขาหลักให้ใส่ร้านเรอดังไว้ในทริปเลยนะคะ อยากให้ได้มาลองกันสักครั้ง
รายละเอียดสำหรับการเดินทางไปท่องเที่ยวเกาะผ้า
การเดินทางไปเกาะผ้า : ขึ้นเรือที่ท่าเรือบ้านน้ำเค็ม มีเรือประมงพื้นบ้านคอยให้บริการ ราคาเหมาลำเริ่มต้น 2,500 บาท โดยสารได้สูงสุด 8 คน หรือจะใช้บริการผู้ประกอบการเอกชน เช่น Khaolak Wonderland Tours ก็ได้
รายละเอียดร้านเรอดัง
- เปิดทุกวัน วันละ 2 ช่วงเวลา (หยุดวันที่ 1-2 และ 16-17 ของทุกเดือน กรณีตรงกับศุกร์ เสาร์-อาทิตย์ จะเลื่อนวันปิด
ช่วงเที่ยง : 10.30 – 15.00 น. / ช่วงเย็น : 18.00 – 20.30 น - โทร. 085 691 5821
- พิกัด ตรงข้าม อบต.ลำแก่น บ้านลำแก่น ต.ลำแก่น อ.ท้ายเหมือง จ.พังงา (ห่างจากเขาหลัก ประมาณ 5 ก.ม.)
- Google map: https://goo.gl/maps/G9PfgYdoCDXnixXKA
ขอบคุณข้อมูลจาก
- การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานพังงา และ Hello Phang-nga 365 days
- ภาพ Drone โดย ปริญญา ชาวสมุน