กินนัตโตะแบบชินจัง ทำง่าย ประโยชน์เยอะ

3,800 VIEWS
PIN

image alternate text
กินข้าวราดนัตโตะกับผมมั้ยครับพี่สาววววว

นัตโตะ เป็นอาหารหมักดองสัญชาติญี่ปุ่นที่ขึ้นชื่อเรื่องคุณประโยชน์มหาศาลจนได้ชื่อว่าเป็น Superfoods แห่งชาติเลยค่ะ ชาวญี่ปุ่นส่วนใหญ่กินนัตโตะกันเป็นประจำ แม้กระทั่งเจ้าเด็กจอมแก่นอย่าง โนะฮาร่า ชินโนสุเกะ หรือ ชินจังจอมแก่น จากอนิเมะยอดนิยมตลอดกาลอย่าง เครยอนชินจัง เองก็กินนัตโตะให้เห็นกันในหลายตอน

นัตโตะคืออะไร

นัตโตะคือถั่วเหลืองที่นึ่งหรือต้มจนสุก หมักด้วยแบคทีเรียดีที่ชื่อว่า Bacillus subtilis จนเกิดใยเหนียวหนืดขึ้น กรรมวิธีดั้งเดิมคือการนำถั่วเหลืองไปห่อด้วยฟางข้าวซึ่งแหล่งแบคทีเรียตามธรรมชาติ แล้วนำไปหมักทิ้งไว้ในที่อากาศอุ่น เชื้อจากฟางข้าวก็จะเจริญเติบโตจนเอนไซมืไปย่อยโปรตีน ทำให้ถั่วเหลืองมีสภาพเปลี่ยนไปเป็นนัตโตะเหนียวยืดอย่างที่เราคุ้นตากัน

ในปัจจุบัน กรรมวิธีการผลิตนัตโตะมักใช้หัวเชื้อที่เพาะเลี้ยงมาโดยเฉพาะเพื่อความสะอาดและเป็นมาตรฐาน โดยจะนำถั่วเหลืองสุกมาคลุกกับเชื่อ Bacillus subtilis พักไว้ในอุณหภูมิ 40-45 องศาเซลเซียสจนเริ่มมีใยขาว แล้วจึงนำไปบ่มต่อในตู้เย็นเพื่อยืดอายุการเก็บรักษา ร้านคอนบินิ (ร้านสะดวกซื้อ) และซูเปอร์มาร์เก็ตในญี่ปุ่นจึงมีนัตโตะพร้อมรับประทานให้เลือกซื้อได้หลายแบบหลายยี่ห้อ แม้กระทั่งในไทยเอง ซูเปอร์มาร์เก็ตเชนหลายแห่งก็มีนัตโตะให้เลือกซื้อในราคาเพียงหลักสิบเท่านั้น

ประโยชน์ของนัตโตะ

นัตโตะมีเอนไซม์พิเศษชนิดหนึ่งชื่อว่า Nattokinase เอนไซม์ชนิดนี้มีคุณสมบัติในการช่วยสลายลิ่มเลือดซึ่งเป็นสาเหตุของโรคหลอดเลือดหัวใจ เส้นเลือดสมองอุดตันได้ แถมยังมีวิตามิน K2 ที่มีส่วนสำคัญในการสร้างและบำรุงกระดูกอยู่สูง มันจึงนับว่าเป็น ‘อาหารเป็นยา’ ที่อยู่คู่วิถีการกินของชาวญี่ปุ่นมาแสนนาน

นอกจากนี้ ในนัตโตะยังมีโพรไบโอติกส์หรือแบคทีเรียชนิดดีที่ช่วยเรื่องระบบย่อยอาหาร ทำให้สมดุลย์ลำไส้ดีขึ้น ช่วยเรื่องการขับถ่าย และช่วยเรื่องระบบภูมิคุ้มกันได้ด้วย แต่มีข้อแม้ว่าต้องกินนัตโตะสดๆ ที่ไม่ผ่านความร้อน เพราะแบคทีเรียโพรไบโอติกส์จะหายไปหมดนั่นเอง

ประโยชน์ นัตโตะ

กินนัตโตะง่ายๆ แบบชินจัง

การกินนัตโตะสดๆ เป็นเรื่องท้าทายพอสมควรเลยค่ะ โดยเฉพาะกับคนที่พยายามกินนัตโตะครั้งแรก เพราะมันมีกลิ่นถั่วหมักชัดมากจนหลายคนยกธงขาวยอมแพ้ไปก่อน ฉันเองก็เพิ่งจะเริ่มฝึกกินนัตโตะเมื่อไม่นานมานี้ เพราะบังเอิญเปิดไปดูชินจังตอนเก่าๆ เข้าเลยนึกอยากลองกินขึ้นมาบ้าง

ในอนิเมะเรื่องชินจังตอนที่ 82-C เจ้าเด็กจอมแก่นกลับมาจากโรงเรียนด้วยอาการหิวสุดๆ แต่มิซาเอะ (แม่) ก็ไม่ยอมให้กินของว่างรองท้อง เพราะอีกแป๊บเดียวข้าวเย็นก็จะเสร็จเรียบร้อย – มิซาเอะเธอกลัวว่าชินจังกินขนมอิ่มแล้วจะไม่ยอมกินข้าวเย็นน่ะสิคะ

ในขณะที่ชินจังกำลังรอกินข้าวอย่างใจจดใจจ่อ คุณนายข้างบ้านก็ดันแวะมาหาเสียนี่ มิซาเอะทิ้งครัวไปยืนคุยกับคุณนายอยู่นานสองนาน จนสุดท้ายชินจังทนไม่ไหว เลยต้องหาอะไรกินสักอย่างที่ต้องไม่ใช่ขนม เพราะกลัวโดนท่าไม้ตาย ‘ปั่นนรก’ จากมิซาเอะ แต่สุดท้ายชินจังก็ค้นตู้เย็นไปเจอนัตโตะเข้า จึงเป็นที่มาของการทำอาหารครั้งแรกในชีวิต นั่นก็คือเมนูข้าวราดนัตโตะที่เราจะชวนมาทำกันครั้งนี้

ข้าวราดนัตโตะกินได้หลายแบบสุดแท้แต่ว่าจะหาอะไรมาใส่เพิ่มได้ แต่สูตรของชินจังมีแค่ข้าว นัตโตะ และต้นหอมญี่ปุ่นเท่านั้น ง่ายสมกับเป็นเมนูของเด็ก 5 ขวบเลยค่ะ

วิธีกินนัตโตะแบบชินจังก็คือ แกะกล่องนัตโตะ เทลงแก้วแบบมีหู แล้วใช้ตะเกียบคน คน และ คน พร้อมกับร้องเพลง 

“คน คน คน คน คน
ผมไม่ชอบต้นหอมในหม้อไฟ แต่ชอบต้นหอมในนัตโตะที่ซู๊ดดด…
คน คน คน คน คน
มากินนัตโตะด้วยกันม้า…
คน คน คน คน คน
ถ้ากินด้วยกันสองคนละโลกจะไม่หยุดหมุน…” 

เมื่อร้องเพลงได้ที่แล้ว นัตโตะจะเริ่มมีเยื่อเมือกสีขาวเยอะๆ เสร็จแล้วก็ใช้กรรไกรตัดต้นหอมญี่ปุ่นเป็นแว่นบางใส่ลงไปในแก้ว คน คน คน คน คน ตัดซองเครื่องปรุงที่แถมมาในกล่องนัตโตะแล้วเทลงไป คน คน คน คน คน เท่านี้ก็เรียบร้อย… เตรียมคดข้าวใส่จาน เทนัตโตะที่คนแล้วราดลงไป เท่านี้ก็พร้อมเสิร์ฟแล้วค่ะ

สรุปว่าข้าวราดนัตโตะในเย็นที่แสนหิววันนั้นก็เป็นอาหารที่ชินจังทำเองเป็นอย่างแรกในชีวิต ทำเอามิซาเอะและฮิโรชิ (พ่อ) ภูมิใจในตัวชินจังมากกก แต่สุดท้ายชินจังก็อิ่มเกินไปจนไม่สามารถกินข้าวแกงกะหรี่ของโปรดซึ่งเป็นเมนูที่มิซาเอะทำค้างไว้ในวันนั้นได้อยู่ดี โธ่ น่าสงสารจัง!

หลังจากดูชินจังตอนนี้จบ และได้ลองกินนัตโตะมาพอประมาณ ฉันจึงขอสรุปเคล็ดลับสำหรับการกินนัตโตะไว้ดังนี้ค่ะ

– เส้นใยเมือกๆ ที่เกิดจากการคนนัตโตะ ยิ่งเยอะก็จะยิ่งดี เพราะเมือกพวกนี้ทำหน้าที่หอบเอารสชาติของเครื่องปรุงเข้าปากเราด้วย จึงกินง่ายขึ้น (คนไม่ชอบอาหารเมือกๆ อาจจะต้องทำใจกับข้อนี้หน่อยนะคะ)
– ต้นหอม โชยุ และมัสตาร์ต เป็นสามสหายที่ทำให้นัตโตะอร่อยขึ้น ได้รสขมน้อยลง ถ้าไม่ชอบมัสตาร์ต จะใส่ขิงขูดละเอียดหรือวาซาบิแทนก็อร่อยไปอีกแบบ
– ถ้าชอบเท็กซ์เจอร์เมือกๆ จะใส่ไข่แดงสด (เกรดกินดิบได้) หรือกระเจี๊ยบเขียวลวกหั่นเฉียงลงไปเพิ่มความเมือกก็ได้ค่ะ 
– ถ้าชอบรสมันๆ แนะนำให้ลองใส่อะโวคาโดลงไปด้วยสัก 3-4 ชิ้น 
– ถ้าชอบกลิ่นหอมๆ ชอยส์ที่ฉันเคยลองและคิดว่าเข้ากันได้ดีก็คือสาหร่าย (ซอยเป็นเส้นแล้วโรยหรือห่อกินเป็นคำ) งาขาวคั่วบด หรือถ้ามีใบชิโสะสดก็สามารถซอยละเอียดแล้วโรยหน้าไปได้เลย อร่อยมาก!
– ถ้าชอบความกรุบกรอบ ลองเพิ่มแตงกว่าญี่ปุ่นหั่นเต๋า (ขูดไส้ออกก่อน) ไชเท้าดองหั่นเต๋า หรือกิมจิลงไปด้วยก็จะทำให้สดชื่นขึ้นได้ค่ะ

นัตโตะยี่ห้อไหนอร่อยที่สุด

หลายคนแนะนำยี่ห้อ ซาโจซังโนะนัตโตะ – 社長の納豆 หรือ ถั่วหมักของท่านประธาน ซึ่งเป็นยี่ห้อที่ราคาไม่แพงเพราะผลิตในไทย แม้ถั่วจะเม็ดเล็กกว่าถั่วเหลืองญี่ปุ่น แต่รสชาติใกล้เคียงนัตโตะนำเข้าทีเดียวค่ะ ที่สำคัญคือเมื่อผลิตในไทยก็ไม่ต้องผ่านการแช่แข็งเพื่อขนส่งทำให้ได้รสสัมผัสที่ยังเฟิร์มและสดใหม่อยู่

ก่อนจะเขียนบทความชิ้นนี้ ฉันลองกินนัตโตะมา 5-6 ยี่ห้อ และพบว่า เมื่อชินกับรสชาตินัตโตะแล้ว จะยี่ห้อไหนก็ไม่ได้แตกต่างกันมาก ประกอบกับฉันยังสนุกกับการเลือกนัตโตะยี่ห้อที่ชอบจึงอยากทดลองไปเรื่อยๆ อยู่ ส่วนตัวขอแค่มีโชยุและมัสตาร์ตมาในแพ็กด้วยก็พอ

อย่างไรก็ตาม ณ ปัจจุบัน ฉันเอนเอียงไปทางยี่ห้อ โอกาเมะนัตโตะฮิคิวาริ – おかめ納豆 味わい小粒 ที่คนไทยถือวิสาสะเรียกกันว่า นัตโตะแป๊ะยิ้ม เพราะเมื่อคนแล้วจะมีเส้นใยหนาและละเอียดสุดๆ ส่วนโชยุและมัสตาร์ตก็รสชาติชัดกว่ายี่ห้ออื่นๆ ทำให้กินง่ายมากค่ะ (ป.ล. จริงๆ แล้วโอกาเมะคือหน้ากากรูปหญิงสาวนะคะ ไม่ใช่แป๊ะยิ้มแต่อย่างใด)

ใครมีนัตโตะในดวงใจเป็นยี่ห้อไหนกันบ้าง หลังไมค์มาป้ายยาได้นะคะ

RECOMMENDED ARTICLES
RECOMMENDED VIDEOS