SERVES
3-4 คน
LEVEL
ปานกลาง
แกงส้มรสชาติจัดจ้านมีทั้งเปรี้ยว หวาน เค็ม ครบรส ถ้าหากพูดถึงแกงส้มของกินคู่กันก็น่าจะหนีไม่พ้นไข่เจียวหรือไม่ก็หมูทอด แกงส้มสูตรนี้เลือกใช้เนื้อปลาช่อนมาเป็นส่วนผสมหลักของเนื้อสัตว์ และเลือกสายบัวมาแกงรวมกัน ความฟินอยู่ที่เมื่อสายบัวดูดน้ำแกงส้มเข้าไปด้านใน พอเวลากินตักสายบัว เนื้อปลาช่อนเข้าปาก น้ำที่อยู่ในสายบัวก็จะกระจายไปทั่วทำให้ได้รสชาติแกงส้มแบบสุดๆ อย่างที่บอกกินคู่กับข้าวสวยร้อนๆและไข่เจียวหรือหมูทอดหอมๆสักจานเป็นข้าวหมดหม้อทุกครั้งไป
INGREDIENTS
น้ำ
3
ถ้วย
น้ำพริกแกงส้ม (130 กรัม)
½ ถ้วย+2 ช้อนโต๊ะ
เนื้อปลาช่อน
500
กรัม
สายบัวหั่นท่อนยาว 2 นิ้ว
300
กรัม
กะปิสำหรับแกง (30 กรัม)
2
ช้อนโต๊ะ
เกลือสมุทร
1
ช้อนชา
น้ำตาลปี๊บ (45 กรัม)
3
ช้อนโต๊ะ
น้ำส้มโหนด
4
ช้อนโต๊ะ
น้ำพริกแกงส้ม (ปริมาณ 1 ถ้วย)
พริกขี้หนูสีแดงเม็ดใหญ่(80 กรัม)
50
เม็ด
พริกขี้นกแห้ง (5 กรัม)
10
เม็ด
เกลือสมุทร
1
ช้อนชา
ตะไคร้ซอย
2
ต้น
ขมิ้นอ้อยปอกเปลือกหั่นท่อน 2 นิ้ว (10 กรัม)
2
ท่อน
กระเทียมไทยแกะเปลือก (100 กรัม)
½
ถ้วย
กะปิสำหรับตำน้ำพริก
2
ช้อนโต๊ะ
METHOD
1. ทำน้ำพริกแกงส้มโดยโขลกพริกขี้หนูสีแดง พริกแห้ง และเกลือ เข้าด้วยกันจนละเอียด ใส่ตะไคร้ ขมิ้นอ้อย กระเทียมและกะปิ โขลกรวมกันจนละเอียด ตักใส่ถ้วยเตรียมไว้
2. ต้มน้ำในหม้อด้วยไฟกลาง รอให้น้ำเดือด ใส่น้ำพริกแกงส้ม คนให้น้ำพริกแกงละลาย ต้มให้เดือดอีกครั้ง เร่งเป็นไฟแรง ใส่เนื้อปลาช่อน ห้ามคนจนกว่าเนื้อปลาจะสุก พอเนื้อปลาสุก ล้างสายบัวที่แช่ไว้ให้สะอาด ใส่ลงในหม้อน้ำแกงที่เดือดจัดใช้ทัพพีกดให้น้ำพอท่วมผัก พอผักเริ่มสุกตักน้ำแกงในหม้อประมาณ ¼ ถ้วย ใส่ถ้วยใบเล็กอีกใบ ใส่กะปิลงละลาย ตักใส่หม้อทีละช้อน ชิมให้ได้รสเค็มตามชอบ ใส่เกลือน้ำตาลปี๊บ และน้ำส้มโหนด ต้มพอเดือดอีกครั้ง ปิดไฟ ชิมรสให้ออกเปรี้ยว เค็ม เผ็ด
3. ตักใส่ถ้วย เสิร์ฟร้อนๆกับข้าวสวย