อีหล่า อีสานกายะ เริ่มต้นมาจากความชอบของ คุณตาล-ธนวัฒน์ แสงอำไพ เจ้าของและเชฟที่ชื่นชอบการดื่มสังสรรค์กับเพื่อนเป็นพิเศษ และยังรักในการทำอาหาร เลยรับบทพ่อครัวประจำวงเหล้าไปโดยปริยาย โดยก่อนจะมาเปิดร้าน คุณตาลมีอาชีพทนาย แต่ด้วยความที่ชอบทำอาหาร แถมยังมีรสมือที่ดี พอถึงช่วงหนึ่งที่ไม่อยากเป็นทนายแล้ว บวกกับมีสกิลการทำอาหารขั้นเทพ เลยอยากเปิดร้านอาหารอีสานเพราะอาหารอีสานเข้าถึงคนง่าย แต่คุณตาลไม่ใช่คนอีสานนะ! แล้วจะมาทำอาหารอีสานให้มันแซ่บถึงทรวงได้ยังไงละเนี่ย?
เมื่อใจมา คุณตาลก็ลงพื้นที่แถบอีสาน ไปตามหาวัตถุดิบและศึกษาความเป็นอีสานอย่างลึกซึ้ง อาหารพื้นบ้านที่ไม่มีในร้านอาหารอีสานทั่วไป คุณตาลก็ไปเสาะหาชิม เพื่อจะได้รู้จักอาหารอีสานมากยิ่งขึ้น และนำมาปรับใช้ในร้านอาหารของตัวเอง
![](https://krua.co/wp-content/uploads/2022/06/ArticlePic_1670x1095-01-3-scaled.jpg)
ทำไมต้อง ‘อีสานกายะ’
อย่างที่บอกข้างต้นว่า คุณตาลชอบดื่มสังสรรค์กับเพื่อนๆ จึงอยากทำร้านให้คล้าย ‘ร้านอิซากายะ’ ของญี่ปุ่น ที่เป็นร้านสำหรับนั่งดื่มโดยเฉพาะ โดยบรรยากาศภายในร้านจะคล้ายร้านอิซากายะแบบญี่ปุ่น แต่ต้องมีรถเข็น ให้ฟีลบ้านๆ ดูโลคอล มีกลิ่นอายความเป็นอีสาน และที่สำคัญ อาหารอีสานรสชาติจัดจ้านไปกันได้ดีกับเครื่องดื่ม ไม่ว่าจะเป็นน้ำเก๊กฮวยเย็นๆ หรือจะเป็นน้ำสีใสรสขมก็เหมาะเหม็งสุดๆ เป็นความตั้งใจของคุณตาลที่อยากทำให้ร้านนี้เป็นร้านสำหรับนักดื่มโดยเฉพาะ
![](https://krua.co/wp-content/uploads/2022/06/ArticlePic_1670x1095-02-2-scaled.jpg)
ถึงจะเปิดร้านมาได้ 5 เดือนแล้ว แต่คุณตาลยังต้องคอยควบคุมรสชาติอาหารทุกจานด้วยตัวเอง เพื่อให้คงตามต้นตำรับรสชาติที่วางไว้ เว้าหลายแฮง เดี๋ยวจะหาว่าขี้ตั๋ว ไปดูเมนูที่ร้านกันเลยจะได้ไม่หาว่าตั๋วกัน
![](https://krua.co/wp-content/uploads/2022/06/ArticlePic_1670x1095-11-1-scaled.jpg)
![](https://krua.co/wp-content/uploads/2022/06/ArticlePic_1670x1095-03-2-scaled.jpg)
เริ่มจากเมนูที่ทำให้ร้านบ่งบอกถึงความเป็นอิซากายะมากที่สุดก็คงจะเป็นเซตเสียบไม้ย่าง ถ้าไปร้านนี้ก็ห้ามพลาดที่จะสั่งมาเป็นกับแกล้มเด็ดขาด ในร้านมีทั้งเนื้อ ตับ ปลาดุก หอย และอื่นๆ แต่ที่แนะนำก็คือ สุรินทร์วากิว (ไม้ละ 99บาท) เนื้อย่างเสียบไม้สไตล์ญี่ปุ่นอย่างยากิโทริ ที่ทางร้านนำเนื้อไทย-สุรินทร์วากิว มาปรุงเกลือพริกไทยแล้วนำมาย่างให้สุกพอดี มีกลิ่นเนื้อหอมๆ กินเปล่าไม่ต้องจิ้มก็คือดีไม่ไหว และที่ดีและเป็นนัมเบอร์วันที่สุดของเซ็ตย่างนั่นก็คือ ตับไก่ย่าง (ไม้ละ25บาท) ย่างได้พอดีมาก ข้างนอกกรอบพอดีไม่ไหม้ ข้างในตับนุ่ม ไม่เละ และที่สำคัญตับหวานมาก ไม่มีกลิ่นคาวเลย
![](https://krua.co/wp-content/uploads/2022/06/ArticlePic_1670x1095-08-1-scaled.jpg)
ส่วนตัวชอบตับไก่ย่างมาก แบบว่าอยากจะกินสัก 10 ไม้ไปเลยไม่แบ่งใคร และเสียบไม้ย่างที่ร้านรถเข็นส้มตำต้องมีนั่นคือ ปลาดุกย่าง (89 บาท) หน้าตาเหมือนปลาไหลย่างญี่ปุ่นไม่มีผิด รสชาติหวานอ่อนๆ โรยด้วยสาหร่ายเพิ่มความหอม และสุดท้าย จี่หอยนา (ไม้ละ 29 บาท) ติดหวานไปนิด อาจจะเพราะซอสที่ทามา และส่วนใหญ่อาหารอีสานมักจะไม่มีรสหวานเท่าไหร่นัก เมนูนี้เลยออกจะแปลกลิ้นไปสักหน่อย
![](https://krua.co/wp-content/uploads/2022/06/ArticlePic_1670x1095-05-1-scaled.jpg)
ต่อมาเป็นเมนูที่ดูญี่ปุ๊นญี่ปุ่นแต่รสชาติจัดจ้านแบบอีสาน นั่นก็คือ ยุเกะ แต่ร้านนำมาประยุกต์มาเป็น ก้อยเนื้อดิบ (109 บาท) เสิร์ฟพร้อมไข่ดิบ โดยปกติก้อยตามร้านอาหารอีสาน จะมีความขมของดีวัวและเพี้ย คนที่ไม่เคยชินกับรสขมในอาหารอีสาน อาจจะรู้สึกกินยากและไม่อร่อย แต่สำหรับร้านอีหล่า อีสานกายะนั้นปรุงรสก้อยเนื้อดิบได้ไม่ขมมาก มีรสเปรี้ยว เค็ม หวานของเนื้อดิบ และความมันของไข่แดงดิบ ช่วยให้รสชาตินวลเข้ากันดี ไม่ขมโดด ไม่เปรี้ยวโดด เป็นการผสมผสานความเป็นญี่ปุ่นกับอาหารอีสานได้อย่างลงตัว
![](https://krua.co/wp-content/uploads/2022/06/ArticlePic_1670x1095-07-1-scaled.jpg)
อ่องมันปู (109 บาท) เมนูนี้เรียกได้ว่าถ้ามองด้วยตาเปล่า ไม่ได้ชิมก็คงจะคิดว่าเป็นคานิมิโซะ วิธีการจัดเสิร์ฟเหมือนเป๊ะ แต่รสชาติเป็นรสมันของปูนา เค็มนำ มันตาม หอมกลิ่นกระดองปูที่ถูกย่างมาร้อนๆ เสียดายที่กระดองปูมันเล็กอยากจะกินเยอะกว่านี้ ฮ่าๆ
![](https://krua.co/wp-content/uploads/2022/06/ArticlePic_1670x1095-04-2-scaled.jpg)
ใครสายเนื้อต้องลอง Skirt Steak (229 บาท) เนื้อย่างกินคู่กับวาซาบิดอง ย่างเนื้อมาได้สุกพอดี ไม่เหนียว หอมเนื้อ รสเค็มพอดีๆ กินคู่กับวาซาบิดองเข้ากันสุดๆ ต้องบอกเลยว่าเนื้อที่ทางร้านนำมาใช้ไม่ว่าเป็นเมนูไหนก็แล้วแต่ เป็นเนื้อไทยที่คุณภาพดีจริงๆ รสชาติแทบจะเหมือนเนื้อนอกเลย ถ้าคุณตาลไม่ได้บอกว่าเนื้อที่ร้านเป็นเนื้อไทย คนกินอย่างเราๆ ก็คงจะคิดว่าไม่ใช่เนื้อไทยแน่ๆ เพราะความนุ่ม และกลิ่นของเนื้อ ใกล้เคียงเนื้อนอกมากๆ
![](https://krua.co/wp-content/uploads/2022/06/ArticlePic_1670x1095-12-1-scaled.jpg)
เมนูต่อไปเอาใจสายชอบกินของดิบ ซอยจุ๊ จัดเสิร์ฟอย่างกับซาชิมิ แต่จริงๆ คือซอยจุ๊บ้านเรานี่แหละ มีส่วนของเนื้อ ตับ และผ้าขี้ริ้ว ต้องยกความดีงามให้กับความสดของเนื้อ ไม่คาวแล้วยังนุ่มหวานอร่อย ตับก็ไม่มีกลิ่นคาว ผ้าขี้ริ้วก็ถือว่าสดใช้ได้ แถมยังเสิร์ฟกับแจ่วขมที่ไม่ขมเหมือนร้านอาหารอีสานทั่วไป ทางร้านแจ้งว่าเมนูนี้มีขายเฉพาะตอนที่สามารถหาเนื้อได้สดจริงๆ มาเสิร์ฟได้เท่านั้น ไม่สด ไม่ขายเด้อ ถ้าอยากกินลองสอบถามที่ร้านก่อนนะคะว่าวันนี้ที่ร้านมีเนื้อสดๆ ขายไหม
![](https://krua.co/wp-content/uploads/2022/06/ArticlePic_1670x1095-13-1-scaled.jpg)
มาที่สายของทอดกันบ้าง ไม่ว่าจะไปดื่มร้านไหน เชื่อว่าทุกโต๊ะจะต้องมีเมนูนี้ เพราะเป็นกับแกล้มชั้นดีเลยทีเดียวเชียว นั่นคือปากเป็ดทอด ซึ่งก็ไม่ใช่ปากเป็ดทอดธรรมดานะจ๊ะ เป็น ปากเป็ดทอดเทมปุระ (109 บาท) เชื่อว่าทุกคนรู้อยู่แล้วว่ามันอร่อยยังไง แต่ร้านนี้พิเศษตรงการทอดเทมปุระ ที่ทำให้ปากเป็ดทอดอร่อยขึ้นเป็นสิบเท่า (ผู้เขียนเป็นของทอดเลิฟเว่อร์อะเนอะ เลยชอบเป็นพิเศษ) ขนาดที่ว่าตั้งทิ้งไว้สักพัก กัดไปแล้วก็ยังกรอบกร๊อบ เมนูนี้ห้ามพลาด ต้องสั่ง!
![](https://krua.co/wp-content/uploads/2022/06/ArticlePic_1670x1095-06-1-scaled.jpg)
มาถึงเมนูที่บ่งบอกความเป็นอีสานได้มากที่สุดในทุกเมนูที่ได้กิน ลาบเทา (99 บาท) เทาคือสาหร่ายน้ำจืด แต่ที่นี้ได้ดัดแปลงมาเป็นลาบเทาสาหร่ายวากาเมะ ว่าซ่าน! จะอีสานจ๋าก็ไม่ได้นะคะ เดี๋ยวหลุดธีมอิซากายะ แต่สัมผัสแรกที่กินก็คืออีส้านอีสาน เพราะมีส่วนผสมของน้ำพริกปลาช่อนและเนื้อหอยขม กินกับมะเขือขื่น โดยมีรสหวานจากสาหร่ายวากาเมะ เหมาะสำหรับคนชอบกินสาหร่ายวากาเมะที่มีเนื้อสัมผัสแบบกรึบๆ
![](https://krua.co/wp-content/uploads/2022/06/ArticlePic_1670x1095-09-1-scaled.jpg)
หลังจากกินดื่มจนกรึ่มๆ แล้ว ก็ต้องการเมนูน้ำซุปร้อนๆ ซดให้สบายท้องกันหน่อย อย่าง แจ่วฮ้อนเนื้อ (499 บาท) จุดเด่นอยู่ที่น้ำซุปที่หอมเครื่องสมุนไพร รสชาติหวาน กลมกล่อม แซ่บสุดๆ กินกับเนื้อสไลด์สุดนุ่มชนิดละลายในปาก ผู้เขียนซดน้ำซุปหมดเกลี้ยง ถือว่าเป็นเมนูปิดท้ายได้ดีมาก
![](https://krua.co/wp-content/uploads/2022/06/ArticlePic_1670x1095-10-1-scaled.jpg)
จัดว่าเป็นร้านที่ควรค่าแก่การขับรถไปกิน ถึงแม้ว่าจะอยู่ไกลมากก็ตาม ได้ทั้งบรรยากาศใหม่ๆ รสชาติอาหารก็จัดจ้านถูกต้อง จนลูกอีสานอย่างเราจะต้องกลับมาซ้ำ วัตถุดิบดีมาก บวกรสมือที่อร่อย รู้ว่าอาหารที่แท้จริงเป็นยังไง วัตถุดิบไหนเหมาะกับเมนูอะไร ปรุงยังไงถึงจะดึงรสชาติของวัตถุดิบออกมาได้ดี รับรองว่าไปแล้ว บ่ผิดหวังแน่นอนเด้อจ้า แซ่บหลายๆ แซ่บคักๆ
ร้านอีหล่า อีสานกายะ
พิกัด: ถนนราชพฤกษ์ ติดกับสำนักงานใหญ่มังกรฟ้า
เปิด-ปิด 16.30น.-23.00น. (ปิดวันจันทร์)
โทร 084-0024666
ไลน์ @era_izaan
บทความเพิ่มเติม