INGREDIENTS
METHOD
1. ทำเชอร์เบทสตรอว์เบอร์รีโดยใส่สตรอว์เบอร์รีแช่แข็ง น้ำตาล และน้ำ ลงในหม้อ ยกขึ้นตั้งบนไฟกลางจนน้ำตาลละลายและสตรอว์เบอร์รีนุ่มลง นำส่วนผสมสตรอว์เบอร์รีไปปั่นจนละเอียด กรองด้วยกระชอนตาละเอียดลงในหม้อใบเดิม ยกขึ้นตั้งบนไฟกลางอีกครั้งจนเดือดปิดไฟ ใส่น้ำมะนาว พักไว้จนเย็นสนิทนำเข้าแช่ในตู้เย็นช่องธรรมดา 1 คืน (เชอร์เบทบลูเบอร์รีและกีวีทำเช่นเดียวกัน)
2. เทส่วนผสมเชอร์เบทลงในเครื่องปั่นไอศกรีมปั่นจนส่วนผสมข้นฟู (ระยะเวลาการปั่นขึ้นอยู่กับลักษณะเครื่องปั่นไอศกรีมควรปั่นอย่างน้อยประมาณ 20 นาที) ตักเชอร์เบทใส่กล่อง ปิดฝา นำเข้าแช่ในตู้เย็นช่องแช่แข็งพักไว้
3. ทำเมอแรงก์โดยอุ่นเตาอบที่อุณหภูมิ 100 องศาเซลเซียส เตรียมไว้ ตีไข่ขาวและน้ำมะนาวด้วยเครื่องตีไข่ไฟฟ้าจนเริ่มฟู ค่อยๆใส่น้ำตาลทีละน้อย ตีจนส่วนผสมข้น เนื้อเป็นมันวาว ปิดเครื่อง ใส่น้ำตาลไอซิ่ง ค่อยๆตะล่อมจนเข้ากัน ตักใส่ถุงบีบ ใช้แผ่นที่ปาดเค้กรีดส่วนผสมในถุงบีบไม่ให้มีฟองอากาศ บีบเมอแรงก์เป็นรูปต่างๆบนถาดอบที่รองด้วยกระดาษไขหรือแผ่นอบซิลิโคน (ควรบีบเมอแรงก์เป็นรูปทรงเดียวกันทั้งถาดเพื่อให้สุกพร้อมกัน) นำเข้าอบในเตาอบที่อุ่นไว้ ลดไฟเตาอบเหลือ 80 องศาเซลเซียส อบนาน 1 ชั่วโมง 40 นาที ปิดไฟ เปิดฝาเตาอบ พักเมอแรงก์ไว้ในเตาอบจนเย็นสนิท แล้วลอกออกจากกระดาษไขหรือแผ่นอบซิลิโคน
4. จัดเสิร์ฟโดยวางเมอแรงก์ในจาน ตักเชอร์เบทวางบนเมอแรงก์ ตกแต่งด้วยแบล็กเบอร์รีและใบสะระแหน่
Tips
- เพื่อให้ไอศกรีมหรือเชอร์เบทตีขึ้นฟูเร็วในเครื่องทำไอศกรีม ควรเตรียมส่วนผสมที่จะตีแช่ในตู้เย็นช่องธรรมดาไว้ล่วงหน้า 1 คืน เพื่อให้ส่วนผสมเย็นจัด
- เชอร์เบทที่ทำจากผลไม้ที่มีน้ำมาก เช่น กีวีหรือเมลอน สามารถลดทอนสัดส่วนน้ำตาลแล้วใส่น้ำเชื่อมข้าวโพดหรือกลูโคสแทนได้ เพื่อทำให้เชอร์เบทเนื้อข้นขึ้น อีกทั้งการใส่กลูโคสจะช่วยให้เชอร์เบทมีเนื้อสัมผัสนุ่มนวลยิ่งขึ้นอีกด้วย
- เมอแรงก์ใช้เวลาอบนาน สามารถทำเก็บไว้ล่วงหน้าได้ โดยวางซ้อนสลับกับกระดาษไขในกล่องปิดฝาให้ สนิทอาจหุ้มกล่องด้วยพลาสติกแร็ปอีกที แช่ไว้ในตู้เย็นช่องธรรมดาได้นาน 1 สัปดาห์ (โดยปกติควรเก็บเมอแรงก์ในที่แห้ง เช่น บริเวณหลังเตาอบ แต่หากอากาศร้อนชื้นอย่างบ้านเรา ควรเก็บไว้ในตู้เย็นช่องธรรมดาจะอยู่ได้นานกว่า)