ในบรรดาขนมไทยฉันว่าขนมหม้อกินง่าย อร่อย กินได้บ่อยและไม่เบื่อ รสหวาน มัน หอม และสัมผัสหลากหลายมีให้เลือกหลายชนิดเปลี่ยนไปเรื่อยตามใจอยาก แม้สุดท้ายแล้วจะวนกลับมาสั่งเมนูเดิมๆ ที่ชอบก็เถอะ
ขนมหม้อเป็นขนมไทยมีทั้งเนื้อเหลว เนื้อข้นเหนียว รสหวานมันด้วยน้ำตาลและกะทิเป็นหลัก แต่เดิมนิยมทำใส่หม้อดินเผา เพราะดินเผากักเก็บความร้อนไว้ได้นาน ทำให้ขนมไม่เสียง่ายและยังคงความอร่อยไว้ได้ เดี๋ยวนี้เปลี่ยนจากหม้อดินเผาเป็นหม้อสเตนเลสหรืออะลูมิเนียม ขนมหม้อจึงเป็นชื่อเรียกติดปากหมายรวมถึงขนมที่ทำและใส่ในหม้อ
หลายปีก่อนทุกเช้าแถวที่ทำงานย่านทาวน์ อิน ทาวน์ มีคุณลุงขับรถมอเตอร์ไซค์พ่วงหน้าขายขนมหม้อ เป็นขนมทำเองใส่หม้ออะลูมิเนียมใบเล็ก ใหญ่ บรรทุกมาเต็มคันรถ ฉันยังได้อุดหนุนสาคูเปียก ถั่วดำต้มน้ำกะทิ กล้วยบวชชีอยู่บ่อยๆ เดี๋ยวนี้คุณลุงหายหน้าหายตาไม่รู้ว่าเปลี่ยนที่ขายหรือเปลี่ยนเวลา จนฉันเพิ่งเจอคุณลุงขับผ่านแถวออฟฟิศเมื่อไม่กี่สัปดาห์ก่อนในรอบหลายปี ยืนงงเพราะไม่เห็นกันนานจนรถขับผ่านไป อดกินขนมหม้อแบบงงๆ
สบโอกาสได้มาเยาวราช เห็นว่ามีร้านขนมหม้อไทยผสมผสานสไตล์จีนแต้จิ๋วชื่อว่าร้าน เกียงเม้งเป็นร้านเก่าแก่อยู่คู่เยาวราชมากว่า 56 ปี เลยแวะมาชิมและป้ายยาชาวครัวไปด้วยเลยค่ะ
ร้านขนมหม้อเกียงเม้งเป็นร้านรถเข็นตั้งอยู่ในตรอกเล็กๆ ขายขนมหม้อผสมผสานไทยและจีน เช่น เต้าส่วน กล้วยบวชชี ข้าวเหนียวดำ ข้าวเหนียวเปียกลำไย สาคูเปียกลำไยแห้ง ถั่วดำต้มน้ำกะทิ ลูกเดือยต้ม บัวลอยต้มน้ำขิง มันต้มน้ำขิง และอื่นๆ อีกกว่า 30 ชนิด แรกเริ่มเปิดร้านขายขนมอยู่เพียง 5 ชนิด คือ ต้มถั่วแดง ถั่วเขียว เต้าส่วน ข้าวเหนียวดำ ลูกเดือย ลูกค้ายุคแรกๆ เลยเรียกว่า ‘ร้านขนม 5 หม้อ’ ก่อนจะเพิ่มเมนูกะทิที่เป็นเมนูยอดนิยมตามยุคสมัยเข้ามาภายหลัง
เอกลักษณ์ของขนมหม้อร้านเกียงเม้งรสหวานน้อย เสิร์ฟอุ่นๆ ใช้กะทิคั้นสด ทำสดใหม่ทุกเช้าวันต่อวัน เปิดขายตั้งแต่เช้าตรู่ราว 7:30 น.-15:30 น. เรามาที่ร้านในเช้าวันธรรมดาช่วงเวลา 10:30 น. ถึงไม่ใช่วันหยุดแต่ก็มีคนมายืนออรอเต็มหน้าร้านทั้งคนไทยและต่างชาติ ส่วนใหญ่ซื้อกลับไปกินบ้าน ถ้าจะนั่งกินที่ร้านก็มีโต๊ะตั้งอยู่ในตรอกหลังร้านประมาณ 4 ตัวกับหน้าร้านอีกหนึ่ง บนรถเข็นมีหม้อขนมวางเรียงราย เต้าส่วนกับข้าวเหนียวดำอยู่ในหม้อใหญ่สะดุดตา แต่ที่เราเล็งไว้ตั้งแต่กวาดตามองคือข้าวเหนียวดำกับสาคูเปียกลำไย
ถ้วยแรกเป็น สาคูเปียกลำไยปกติเคยกินสาคูเปียกที่ใช้ลำไยสด พอเป็นลำไยแห้งเม็ดสาคูเลยออกมาสีน้ำตาลใสสวย สาคูนุ่มเม็ดใหญ่ลื่นละมุน หวานอ่อนลงตัว หอมกลิ่นลำไยแห้งมากๆ กินคู่กับกะทิข้นมันเค็มปะแล่มๆ เข้ากันสุด ถ้วยนี้ใครมาแนะนำให้สั่งเลยค่ะ เด็ด
เปียกข้าวฟ่างถือว่าเป็นขนมไทยหากินยากมากๆ อีกชนิดหนึ่ง ทำจากเมล็ดข้าวฟ่าง เป็นพืชตระกูลหญ้า มีให้กินตามฤดูกาล อย่างที่ร้านพอมีขายตลอดเพราะเก็บสต๊อกไว้บ้าง แต่บางช่วงก็อาจไม่มี ถ้าเห็นเขาทำเปียกข้าวฟ่างมาขายแนะนำให้สั่งมาลองเป็นเมนูแรกเลยค่ะ รสชาติเปียกข้าวฟ่างเด่นที่กลิ่นหอมจากตัวข้าวฟ่างเองและใบเตย สัมผัสจากเมล็ดข้าวฟ่างที่เป็นเม็ดเล็กๆ เคลือบด้วยน้ำกะทิเค็มปะแล่มให้รสละมุน ไม่จับตัวเป็นก้อน เวลาทำเปียกข้าวฟ่างนิยมแต่งกลิ่นด้วยน้ำใบเตยหอม จากเมล็ดสีเหลืองเลยถูกย้อมด้วยสีของใบเตยเป็นเขียวอ่อนค่ะ
เต้าส่วนหรือถั่วเขียวเราะเปลือกต้ม เป็นขนมหวานจีนมาจากชื่อจีนแต้จิ๋วว่า ‘เต้าส่วง’ （豆爽） หรือ ‘โต้วเสวียน’ ในภาษาจีนกลาง ขนมถั่วเขียวต้มกับแป้งและน้ำตาล บ้านเราเอามาราดกะทิเพิ่มรสชาติมันเค็มหอมซึ่งเข้ากันดีมาก เต้าส่วนที่นี่เป็นอีกเมนูยอดนิยมเพราะต้มได้นุ่มเปื่อยแต่ยังเป็นเมล็ดสวย กลิ่นหอมอ่อนๆ ของถั่ว ข้นกำลังดี ไม่หนืดเหนียวเกินไปเหมือนที่เคยเจอบางร้าน
ข้าวเหนียวเปียกลำไยรสชาติละมุนสุดๆ หอมลำไยสด หวานกำลังดี ตัวข้าวต้มมาได้นวลเนียน เราชอบที่ขนมทุกถ้วยของที่ร้านทำมาไม่หวานมาก กินแล้วไม่เลี่ยน กลิ่นก็ดี โดยเฉพาะถ้วยนี้เป็นอีกเมนูที่ต้องสั่งเลย
ถ้วยถัดมายังอยู่ที่ขนมข้าวเหนียวเป็นข้าวเหนียวดำต้มมาได้นุ่มหนึบ จะหนึบกว่าตัวข้าวเหนียวขาวเทกเจอร์ต่างกันรวมถึงกลิ่น ถ้วยนี้หอมกลิ่นข้าวเหนียวดำเพียวๆ หอมมาก ยิ่งเคี้ยวยิ่งหอม อีกเมนูที่แนะนำให้สั่งสำหรับใครที่ชอบกินขนมที่ทำด้วยข้าวเหนียว
เต้าโอวจุ๊ก คือเต้าส่วนผสมกับข้าวเหนียวดำ โอจุ๊ก เป็นคำจีนหมายถึงข้าวเหนียวดำ ถ้วยนี้ออกแนวรักพี่เสียดายน้อง เต้าส่วนก็น่ากิน ข้าวเหนียวดำก็ไม่อยากพลาด ลำพังจะกินสองถ้วยคงไม่ไหว สั่งโอวจุ๊กไปเลยหนึ่งถ้วย ราดมาอย่างละครึ่ง จะคนผสมกินรวมกันหรือกินแยกทีละฝั่งก็แล้วแต่ชอบ
ราคาขนมที่ร้านเริ่มต้นตั้งแต่ 30 บาทขึ้นไป เป็นอีกร้านขนมหม้อที่แนะนำให้มากินถ้ามีโอกาสมาเยาวราช โดยเฉพาะคนที่ชอบขนมรสหวานน้อย และขนมกะทิทั้งหลายเพราะที่ร้านใช้กะทิสดใหม่ ได้รสมันหอมเป็นพิเศษ ใครสายคลีน ไม่ชอบกะทิ ก็มีบัวลอยน้ำขิง มันต้มน้ำขิง หรือลูกเดือยเปียกให้เลือก
เสน่ห์ของขนมหม้อก็อยู่ที่ความหลากหลายนี่ละค่ะ ทั้งรสชาติและกลิ่นมาจากวัตถุดิบที่ให้รสและสัมผัสเฉพาะตัว กระทั่งน้ำตาลยังมีหลายระดับความหวาน ทั้งน้ำตาลทรายขาว น้ำตาลทรายแดง น้ำตาลมะพร้าว ฯลฯ นัดเพื่อนครั้งหน้าลองนัดกันไปกินขนมหม้อดูค่ะ ใครอยากกินอะไรก็สั่งกันไปคนละถ้วย แล้วทุกคนจะได้กินขนมถ้วยโปรดของตัววเอง
