SERVES
4 คน
LEVEL
ง่าย
ต้มจิ๋ว เป็นทั้งสำรับชาววังและชาวบ้านที่แต่เดิมนิยมทำกินกันในช่วงเข้าฤดูหนาว ลักษณะคล้ายต้มโคล้ง ต้มส้ม คือมีรสชาติเปรี้ยวเค็ม หวาน เผ็ดร้อนอ่อนๆ ด้วยพริกขี้หนูและกะเพรา หวานธรรมชาติด้วยหอมแดงกับมันเทศ และเนื้อวัวตุ๋นหั่นเต๋าจนเปื่อย สันนิษฐานว่าต้มจิ๋วตำรับในวังนั้นคิดค้นปรุงขึ้นมาโดยพระองค์เจ้าเยาวภาพงศ์สนิท เพื่อถวายพระบิดาล้นเกล้ารัชกาลที่ 5 และทรงเสวยบ่อยครั้งยามที่ทรงพระประชวร จนกลายเป็นอีกหนึ่งเมนูที่ทรงโปรดปราน โดยสูตรของพระองค์เจ้าเยาวภาพงศ์สนิท ระบุวิธีปรุงไว้ว่า
“…ล้างเนื้อให้สะอาด เลาะพังผืดออกให้หมด หั่นเป็นชิ้นพอควร ใส่หม้อเคี่ยวไฟอ่อนๆ พอจวนเปื่อย ปอกมันเทศล้างน้ำแงะๆ ใส่ในหม้อเนื้อ ต้มไปจนเปื่อย ใส่มะขามเปียกนิดหน่อย ซอยหอมใส่ลง พอหอมสุก เด็ดใบโหระพาใบกะเพราล้างน้ำใส่ลงในหม้อ ยกลง ใส่พริกมูลหนูบุบพอแตกๆ บีบมะนาว ใส่น้ำเคยดี ชิมรสดูตามชอบ…”
INGREDIENTS
น้ำ
8
ถ้วย
เนื้อน่องลายหั่นเต๋า 1 นิ้ว
500
กรัม
เกลือสมุทร
1
ช้อนชา
หอมแดงปอกเปลือกบุบ
10
หัว
มันเทศหั่นเต๋า 1 ซม.
1
หัว
น้ำปลา
2
ช้อนโตีะ
น้ำมะขามเปียก
1
ช้อนโต๊ะ
พริกขี้หนูสวนบุบ
20
เม็ด
น้ำมะนาว
1
ช้อนโต๊ะ
ใบกะเพรา
1/4
ถ้วย
ยอดกระเพราสำหรับตกแต่ง
METHOD
- ตั้งหม้อน้ำบนไฟแรงใส่เนื้อน่องลายและเกลือลงในหม้อ พอเริ่มเดือด ลดเป็นไฟกลาง ช้อนฟองทิ้ง เคี่ยวประมาณ 30 นาทีจนเนื้อนุ่ม ลองใช้มีดหรือไม้ปลายแหลมจิ้มแล้วเนื้อหลุดออกจากมีดหรือไม้ได้ง่าย ใส่หอมแดงและมันเทศ ปรุงรสด้วยน้ำปลาและน้ำมะขามเปียก ต้มจนมันสุกนุ่ม ใส่พริกขี้หนูสวนและน้ำมะนาว พอเดือดอีกครั้งปิดไฟ ใบกะเพราและใบโหระพา คนให้เข้ากัน ปิดไฟ
- จัดเสิร์ฟต้มจิ๋วโดยตักใส่ชามตกแต่งด้วยยอดใบกะเพรา
อ่านบทความเพิ่มเติม