อร่อยจริงไหม! ลอง Plant-based Meat เนื้อสัตว์จำแลง 5 แบรนด์

13,795 VIEWS
PIN

image alternate text
image alternate text
ทางเลือกอร่อยของคนรักโลกและสุขภาพ

เทรนด์ที่เรียกเสียงฮือฮาในหมู่คนรักสุขภาพในปีที่ผ่านมาหนีไม่พ้น Plant-based Meat เนื้อสัตว์ทางเลือกของคนยุคใหม่ที่ไม่ใด้เป็นเพียงอาหารที่ตอบโจทย์คนกินเจ กินมังสวิรัติ หรือรักสุขภาพเท่านั้น แต่ยังเชื่อมโยงไปถึงโลกและสิ่งแวดล้อมด้วย อย่างที่ทราบกันว่าอุตสาหกรรมปศุสัตว์นั้นมีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมในเชิงการผลิตก๊าซเรือนกระจก การใช้ทรัพยากรทั้งน้ำและอาหารจากธรรมชาติ รวมถึงการรุกล้ำพื้นที่สำหรับใช้ในการเลี้ยงสัตว์ ยังไม่นับการใช้ยาปฏิชีวนะและสารเคมีต่างๆ ที่อาจส่งผลต่อสุขภาพของผู้บริโภค จึงกล่าวได้ว่าการบริโภคเนื้อสัตว์จากพืชนอกจากดีต่อสุขภาพแล้วยังช่วยสร้างสมดุลให้กับสิ่งแวดล้อมและช่วยฟื้นฟูโลกของเราอีกด้วย 

ว่าแต่ Plant-based Meat คืออะไร? เนื้อสัตว์จากพืช? มีเนื้อจริงๆ อยู่ไหม? มาไขข้อข้องใจกัน 

ปัญหาเรื่องสุขภาพและสิ่งแวดล้อม รวมถึงโรคระบาดที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน ทำให้หลายคนเริ่มหันมาดูแลใส่ใจตัวเองมากขึ้นโดยเฉพาะเรื่องอาหารการกิน Plant-based Meat จึงเกิดขึ้นมาเป็นทางเลือก โดยเป็นนวัตกรรมที่นำเอาพืช เช่น ผัก เห็ด หรือสาหร่ายมาดัดแปลงให้เหมือนกับเนื้อสัตว์จริงๆ ไม่ว่าจะเป็นรสชาติ กลิ่น เนื้อสัมผัสและรูปลักษณ์ภายนอก ซึ่งสารสำคัญที่ช่วยให้เนื้อจากพืชนี้มีรสชาติที่ดีคล้ายกับเนื้อสัตว์จริงๆ คือ สารฮีม (Heme) ซึ่งเป็นโปรตีนที่พบได้ทั้งในพืชและสัตว์ นอกจากนี้ยังมีส่วนผสมอื่นๆ ที่ใส่ลงไป เช่น น้ำมันมะพร้าว เซลลูโลสจากพืช โปรตีนจากถั่ว สารสกัดจากยีสต์ เนื้อแพลนต์เบสจึงดีต่อสุขภาพมากกว่าเพราะไม่มีคอเลสเตอรอล ไขมันต่ำ มีไฟเบอร์และสารอาหาร ทั้งยังมีโปรตีนที่เทียบเท่าเนื้อสัตว์ด้วย ในต่างประเทศเทรนด์การกินเนื้อจากพืชนี้ค่อนข้างประสบความสำเร็จและได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก มีแบรนด์เนื้อสัตว์แพลนต์เบสกำเนิดขึ้นมาหลากหลายแบรนด์ ซึ่งในประเทศไทยเองถือว่าเป็นมือใหม่มากๆ ในโลกแพลนต์เบส แต่ก็มีสตาร์ทอัพไทยหลายรายที่เริ่มทำแบรนด์ขึ้นมา เช่น Let’s Plant Meat / Meat avatar และ More Meat เป็นทางเลือกให้คนไทยบริโภคมากขึ้น 

วันนี้เลยขอเป็นตัวแทนหยิบ Plant-based Meat ที่มีขายในท้องตลาด 5 แบรนด์มารีวิว โดยนำมาทำเป็นเมนูง่ายๆ และทดลองชิม มาดูกันว่าแต่ละยี่ห้อจะมีเอกลักษณ์ จุดเด่น อย่างไร ทั้งรสชาติ หน้าตาจะเหมือนเนื้อสัตว์จริงๆ ไหม? ตอบโจทย์คนไทย คนกินเจหรือคนกินมังสวิรัติมือใหม่แค่ไหนกัน

OmniMeat 

ยี่ห้อแรกเป็นเนื้อสัตว์จากพืชแบรนด์ฮ่องกงที่เพิ่งเข้ามาตีตลาดในไทย ซึ่งไม่ได้เจาะกลุ่มคนกินวีแกนหรือรักสุขภาพเท่านั้น แต่รวมถึงคนที่รักสิ่งแวดล้อม เป็นการกินเพื่อช่วยลดการขาดแคลนเนื้อสัตว์ในอนาคต แม้จะไม่ใช่เนื้อสัตว์จริงๆ แต่ลักษณะภายนอกของหมูบดจากพืชแบรนด์ออมนิมีท มีความคล้ายกับหมูบดจริงๆ ทั้งหน้าตา สี และเนื้อสัมผัสหยุ่นๆ แต่มีความเหลวกว่า และยังคงได้กลิ่นของโปรตีนเกษตรค่อนข้างแรง นำไปปรุงเมนูอื่นๆ ได้สารพัดทั้งต้ม ผัด แกง ทอด นอกจาก OmniMeat Mince ที่เป็นหมูบดจากพืชแล้วเค้ายังมี OmniMeat Happy Bao ซาลาเปาหมูแดงจากพืชอีกด้วย ใครสนใจอยากลองชิมสามารถหาซื้อได้ที่ Tops และ Foodland 

คุณค่าทางโภชนาการ / 1 serving : พลังงานทั้งหมด 70 กิโลแคลอรี / โปรตีน 11 กรัม / ไขมัน 1 กรัม / ไฟเบอร์ 4 กรัม 

ราคา : 127 บาท  ปริมาณ :  230 กรัม (1 ถุง แบ่งกิน 2.5 ครั้ง) 

รสชาติหลังการปรุง: เรานำหมูบดออมนิมีทมาทำเป็นเมนู ‘ลาบหมู’ เมนูพื้นๆ แต่รสชาติจัดจ้านถูกปากคนไทย หน้าตาและเนื้อสัมผัสที่ออกมาเหมือนลาบหมูจริงๆ ไม่รู้สึกว่ากำลังกินแป้งอยู่เหมือนตอนเรากินโปรตีนเกษตร ติดตรงที่ว่าออมนิมีทยังไม่สามารถมอบกลิ่นที่เหมือนเนื้อหมูจริงๆ ให้เราได้ อีกทั้งไม่มีไขมันแทรก น่าจะถูกใจคนที่ชอบกินอาหารลีนๆ 

• สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมหรือสั่งซื้อสินค้าได้ที่ https://omnimeat.co/ และ www.facebook.com/OmniMeat/ 

Let’s Plant Meat 

แบรนด์ไทยน้องใหม่ที่เกิดในจังหวัดเชียงใหม่ จากการเล็งเห็นถึงปัญหามลภาวะทางสิ่งแวดล้อมและโรคภัยต่างๆ ที่เกิดขึ้น รวมถึงกระแสรักสุขภาพ ลดการกินเนื้อสัตว์หันมากินพืชให้มากขึ้น อีกทั้งอยากเห็นอาหารมังสวิรัติไปได้ไกลมากกว่าเต้าหู้ เห็ดและโปรตีนเกษตร โดยได้ปรับเปลี่ยนและดัดแปลงให้ออกมาเป็นเนื้อสัตว์จากพืชที่ดูเข้าถึงง่าย น่ากิน และอร่อยถูกปากคนไทย โดยใช้วัตถุดิบจากพืช 4 ชนิดคือ ถั่วเหลือง ข้าว มะพร้าว และหัวบีทรูท เน้นเจาะกลุ่มคนที่ห่วงใยในสุขภาพและรักโลก สินค้าของเขามีให้เลือกหลากหลายไม่ว่าจะเป็น เนื้อบดจากพืช, เบอร์เกอร์จากพืช และน้องใหม่ล่าสุด คัตสึเนื้อจากพืช ที่เราได้มาในวันนี้ ภายนอกเหมือนกับหมูทงคัตสึเลย ทั้งสี ขนาด รูปร่าง เรียกว่าถ้าวางเทียบกับหมูทงคัตสึจริงมีแยกไม่ออกแน่นอน สามารถหาซื้อเนื้อบดและเบอร์เกอร์เนื้อจากพืชได้ตามห้างสรรพสินค้าทั่วไปอาทิ Makro / Tops / Foodland / Gourmet Market / Lotus / Big C ส่วนทงคัตสึสั่งซื้อได้เฉพาะออนไลน์เท่านั้น Line : @letsplantmeat และจะวางขายในท้องตลาดเร็วๆ นี้ 

คุณค่าทางโภชนาการ / 1 serving : พลังงานทั้งหมด 260 กิโลแคลอรี / โปรตีน 15 กรัม / ไขมัน  2 กรัม / ไฟเบอร์ 4 กรัม 

ราคา : 79 บาท  ปริมาณ : 1 ชิ้น (125 กรัม)  

รสชาติหลังการปรุง: จากการนำเอาทงคัตสึมาทำเป็นเมนู ‘คัตสึด้ง’ โดยใช้หลักการปรุงเหมือนกับการทอดเนื้อสัตว์ทั่วไป เนื้อที่ทอดมีรูปร่างและสีเหลืองสวยงาม มีความกรอบไม่ต่างอะไรกับทงคัตสึจริงๆ เนื้อสัมผัสเวลาเคี้ยวให้ความรู้สึกเหมือนเนื้อหมูมากๆ เพียงแต่ไม่มีกลิ่นหมูเท่านั้น เหมาะสำหรับคนกินเนื้อที่เพิ่งเข้ามาสู่โลกของแพลนต์เบส 

• สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมหรือสั่งซื้อสินค้าได้ที่ www.letsplantmeat.co  และ  www.facebook.com/lesplantmeat

Meat Avatar

แบรนด์ไทยอีกแบรนด์ที่ผลิตเนื้อสัตว์จากพืชผักโดยเน้นใช้วัตถุดิบในประเทศ ให้คนไทยเข้าถึงได้ง่ายในราคาย่อมเยา จุดที่ทำให้ Meat avatar แตกต่างจากแบรนด์ต่างประเทศอื่นๆ คือการนำเสนอวัตถุดิบที่คนไทยและคนเอเชียคุ้นเคยอย่าง หมูกรอบจำแลง ขึ้นมา เรียกเสียงฮือฮาได้ดีทีเดียว รูปลักษณ์ภายนอกโดยรวมทำออกมาเหมือนหมูกรอบมากๆ มีชั้นไขมันสลับกับชั้นเนื้อ ทั้งสีและเนื้อสัมผัสทำออกมาได้ดี ตัวเนื้อแพลนต์เบสทำมาจากธัญพืช ถั่วเหลือง ถั่วลันเตา และเห็ด โดยสกัดเอาคาร์โบไฮเดรตออกให้มากที่สุด เหลือไว้แต่โปรตีนและนำไปขึ้นรูปใหม่ เพื่อให้ได้เนื้อที่มีคาร์โบไฮเดรตต่ำ นอกจากนี้ยังมี หมูสับจำแลง ที่ทำมาจากเห็ดหอมเป็นหลักจะมีความหยุ่นๆ กรึบเด้งเหมือนหมูจริงๆ อยู่ด้วย เน้นเจาะกลุ่มคนกินเจ กินมังสวิรัติหรือวีแกน รวมทั้งคนที่กินเพื่อช่วยโลกและสิ่งแวดล้อม หาซื้อได้ที่ Makro / Tops / Big C / Lotus / Gourmet market

คุณค่าทางโภชนาการ / 1 serving : พลังงานทั้งหมด 130 กิโลแคลอรี / โปรตีน 17 กรัม / ไขมัน 1 กรัม / ไฟเบอร์ 2 กรัม 

ราคา : 120 บาท  ปริมาณ :  200 กรัม ( 1 ถุง แบ่งกิน 2 ครั้ง)

รสชาติหลังการปรุง : เราได้หยิบเอาหมูกรอบจำแลงมาทำเมนูที่หลายคนชื่นชอบอย่าง ‘กะเพราหมูกรอบ’  เนื่องจากวัตถุดิบสุกมาอยู่แล้วจึงใช้ระยะเวลาในการทอดไม่นานเหมือนเนื้อสัตว์จริงๆ โดยนำไปทอดให้กรอบรอบหนึ่งก่อนจึงค่อยนำมาผัด หน้าตาที่ได้เหมือนผัดกระเพราหมูกรอบเลย ทั้งรูปร่างและสีสัน แต่ในฐานะที่เป็นคนกินโปรตีนเกษตรมาก่อน รู้สึกว่ายังมีความเป็นโปรตีนเกษตรอยู่นิดๆ และไม่มีกลิ่นที่เหมือนเนื้อหมูเท่านั้นเอง โดยรวมก็ถือว่าประทับใจ

• สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมหรือสั่งซื้อสินค้าได้ที่  http://www.meatavatar.com/ และ  www.facebook.com/meatavatar/ 

More Meat 

แบรนด์ไทยที่มุ่งเน้นใช้วัตถุดิบในประเทศและช่วยสนับสนุนพี่น้องชาวเกษตรกรจังหวัดสงขลา โดยเน้นวัตถุดิบสำคัญอย่างเห็ดแครงและส่วนประกอบจากพืชต่างๆ เช่น โปรตีนจากถั่วเหลือง น้ำมันมะพร้าว บีทรูท เป็นต้น More Meat จึงเป็นเนื้อแพลนต์เบสที่อุดมด้วยสารเบต้ากลูแคนที่ช่วยกระตุ้นภูมิคุ้มกันของร่างกายและลดระดับคอเลสเตอรอลในเลือด เน้นกินแล้วดีต่อร่างกาย เจาะกลุ่มคนรักสุขภาพเป็นหลัก นำไปทำเมนูได้หลากหลายประเภท สำหรับเรา หมูบดจากพืช ภายนอกมีความเหมือนเนื้อหมูน้อยกว่าแบรนด์อื่นๆ มีสีเนื้อที่ค่อนข้างเข้มจับตัวเป็นเนื้อเดียวกันและเห็นชิ้นเห็ดที่ผสมอยู่ชัดเจน เหมาะกับคนกินเจ มังสวิรัติ วีแกน และคนรักสุขภาพ เพราะใส่เห็ดมาเยอะมาก อุดมด้วยสารอาหารสุดๆ นอกจากนี้ยังมีอาหารพร้อมกินอย่าง ลาบทอดจากพืช ที่รับประกับความแซ่บและรสชาติจัดจ้าน หาซื้อได้ที่ Makro / Foodland / Villa Market / Tops / Gourmet Market 

คุณค่าทางโภชนาการ / 1 serving : พลังงานทั้งหมด 130 กิโลแคลอรี / โปรตีน 16 กรัม / ไขมัน 3.5 กรัม / ไฟเบอร์ 4 กรัม 

ราคา : 89 บาท  ปริมาณ :  200 กรัม  (1 ถุง แบ่งกิน 2 ครั้ง) 

รสชาติหลังการปรุง:  ด้วยเนื้อสัมผัสที่ค่อนข้างจับตัวกัน เราจึงนำหมูบดมาทำเป็นเมนู ‘หมูก้อนทอด’ เนื้อสัมผัสหลังทอดให้สีที่ค่อนข้างเหมือนเนื้อหมูทอด แม้เมื่อกินเข้าไปแล้วไม่รู้สึกถึงความเหมือนเนื้อหมูเท่าที่หวังไว้ มีรสสัมผัสของเห็ดที่เด่นชัดและกลิ่นของโปรตีนเกษตรอยู่ แต่สำหรับคนที่กินเพื่อสุขภาพ กินมังสวิรัติ กินเจ หรือกินเพื่อช่วยสิ่งแวดล้อมแล้ว ก็ถือเป็นอีกหนึ่งแบรนด์ทางเลือกที่ดี  

• สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมหรือสั่งซื้อสินค้าได้ที่ http://www.morefoods.in/ และ www.facebook.com/moremeat.th/ 

Beyond Meat 

บริษัทผลิตเนื้อแพลนต์เบสสัญชาติอเมริกา แบรนด์ต่างชาติเจ้าแรกๆ ที่เข้ามาเขย่าวงการแพลนต์เบสในประเทศไทย ผู้ก่อตั้งเล็งเห็นถึงปัญหาปศุสัตว์ที่มีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ทั้งการทำลายป่าเพื่อนำดินมาใช้ อาหารสัตว์ มูลสัตว์ เรียกว่าปล่อยก๊าซเรือนกระจกทำลายล้างโลกมาก จึงเกิดเป็นโปรเจค ‘เนื้อที่ไม่ใช่เนื้อ’ ขึ้นมา โดยเป็นการทำเนื้อสัตว์เสมือนจากพืชด้วยวัตถุดิบหลัก คือข้าว ถั่วเขียว น้ำมันมะพร้าว บีทรูท แป้งมันฝรั่ง และถั่วปากอ้า เคลมว่าเป็นเนื้อสัตว์ปลูกที่อร่อยครบรสครบกลิ่นครบเนื้อสัมผัส สำหรับคนที่ยังอยากกินของอร่อยแต่ใส่ใจสิ่งแวดล้อม สินค้าที่นำเข้ามาขายในไทยมีหลากหลาย เช่น Beyond Beef เนื้อวัวบดเทียม, Beyond Burger เบอร์เกอร์เนื้อเทียม , Beyond Sausage ไส้กรอกเนื้อเทียม, Beyond Beef Crumble ครัมเบิ้ลเนื้อเทียม และ Beyond Breakfast Sausage ไส้กรอกในรูปแบบเนื้อแพตตี้เทียม ที่เรานำมาทำเมนูในวันนี้ ภายนอกมีสีและเนื้อสัมผัสเหมือนเนื้อแพตตี้จริงๆ มีกลิ่นที่ค่อนข้างแรงกว่าปกติ อาจเป็นเพราะทำเลียนแบบเนื้อวัว หาซื้อได้ที่ Villa Market เท่านั้น 

คุณค่าทางโภชนาการ / 1 serving : พลังงานทั้งหมด 180 กิโลแคลอรี / โปรตีน 11 กรัม / ไขมัน 12 กรัม / ไฟเบอร์ 2 กรัม 

ราคา : 280 บาท  ปริมาณ : 6 ชิ้น (210 กรัม) (1 กล่อง แบ่งกิน 2 ครั้ง)

รสชาติหลังการปรุง: เรานำเนื้อแพตตี้เทียมมาทำ ‘สปาเกตตีพริกกระเทียม’ เมนูที่อาศัยความอร่อยจากวัตถุดิบเป็นหลัก เมื่อนำไปผ่านความร้อน หน้าตา สี และเนื้อสัมผัสของแพตตี้เมื่อชิมแล้วให้ความรู้สึกเหมือนเนื้อจริงจนน่าตกใจ เท็กซ์เจอร์ตอนเคี้ยวมีความเป็นเนื้อสัตว์จริงๆ มีกลิ่นหอมเหมือนเนื้อและกลิ่นเครื่องเทศที่ชัดเจน ถือว่าทางแบรนด์ทำออกมาได้ดีอย่างที่เคลมไว้ว่าเอาใจคนรักการกินเนื้อที่รักสิ่งแวดล้อมจริงๆ

• สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมหรือสั่งซื้อสินค้าได้ที่ https://www.beyondmeat.com/ และ www.facebook.com/beyondmeat/ 

RECOMMENDED ARTICLES
RECOMMENDED VIDEOS