ตั้งแต่เด็กจนโตเวลาเรากินข้าวก็มักจะเจอกับข้าวอย่างหนึ่งวางเป็นประจำอยู่บนโต๊ะอาหารของเราในแทบจะทุกมื้อ สิ่งนั้นก็คือ ‘แกง’ โตมาแล้วก็เริ่มจะสงสัยว่าทำไมแกงถึงเป็นนางเอกประจำโต๊ะอาหารไทยเสมอ พูดกันง่ายๆ ก็ต้องบอกว่าแกงไทยถือเป็นอาหารหลักของคนไทย อยู่คู่กับสังคมไทยแบบสืบสาวเรื่องราวย้อนหลังไปได้นานนม นอกจากความคุ้นเคย แกงไทยยังอร่อยถูกปาก และมีประโยชน์ในหลายๆ ด้านอีกด้วย อย่างไร มาดูกัน
แกงไทยมีหลากประเภทหลายรสชาติ มีทั้งแกงกะทิและแกงไม่ใส่กะทิ พริกแกงไทยก็เป็นการใช้สมุนไพร เช่น พริก ข่า ตะไคร้ กระเทียม หอมแดง ผิวมะกรูด มาโขลกรวมกัน พริกแกงบางชนิดมีส่วนผสมของเครื่องเทศ เช่น ลูกผักชี พริกไทย กานพลู ช่วยชูกลิ่นหอมของเครื่องแกงและดับกลิ่นคาวเนื้อสัตว์ ดังนั้นพริกแกงไทยจึงมีสรรพคุณหลากหลายมากมาย จนแกงไทยได้ชื่อว่าเป็น ‘แกงเพื่อสุขภาพ’ ซึ่งไม่ใช่แค่ในส่วนผสมของพริกแกงเท่านั้น แกงไทยยังใส่ผักและสมุนไพรหลายชนิดลงไป จนมีสรรพคุณทางยาเพียบ แกงอะไรบ้างที่กินแล้วดี ป้องกันโรค ช่วยบรรเทาอาการต่างๆ ไปดูกันเลยยยยย!
แกงเลียง
แกงโบราณที่คนไทยพื้นบ้านกินกันมาแต่ดั้งเดิม เป็นแกงน้ำใส เครื่องพริกแกงประกอบด้วย หอมแดง ที่ช่วยเจริญอาหาร ช่วยย่อย ช่วยขับลม แก้ท้องอืด ช่วยป้องกันโรคหลอดเลือดหัวใจ ถ้ากินสดจะช่วยรักษาไข้หวัด พริกไทย กะปิ เกลือ และกระชาย โดยเอกลักษณ์ที่ขาดไม่ได้ของแกงเลียงคือใบแมงลัก ช่วยแก้อาหารท้องอืดท้องเฟ้อ ตำรับแพทย์แผนไทยใช้แกงเลียงเป็นอาหารช่วยเพิ่มน้ำนมของมารดาหลังคลอด เนื่องจากมีส่วนประกอบของหัวปลี มีสรรพคุณช่วยเพิ่มน้ำนม และเครื่องเทศที่ช่วยกระตุ้นระบบหมุนเวียนของเลือดอย่างพริกไทย ที่ช่วยขับลม ขับเสมหะ แก้อาการหอบ เป็นยาบำรุงธาตุ
แกงแค
เครื่องพริกแกงประกอบด้วยพริกแห้ง เกลือ ข่า ตะไคร้ รากผักชี กระเทียม หอมแดง กะปิ หรือถั่วเน่า และมะแขว่น แกงแคส่วนมากใส่ผักพื้นบ้านและผักตามฤดูกาล รสชาติของแกงแคจะออกขมเล็กน้อย แกงแคยังใส่สมุนไพรท้องถิ่นอย่างจักค่านหรือสะค้าน เป็นเครื่องยาไทย มีรสเผ็ดร้อน ใช้ขับลมในลำไส้ แก้จุกเสียด แก้ธาตุพิการ บำรุงธาตุทำให้ผายเรอ และมะแขว่นที่มีสรรพคุณทางสมุนไพรมากมาย เช่น ใบสดขยี้อุดฟัน แก้ฟันเป็นรำมะนาด แก้ปวดฟัน เมล็ดสด-แห้ง กินแก้ลมวิงเวียน บำรุงโลหิต บำรุงหัวใจ ขับลมในลำไส้ ขับปัสสาวะ บำรุงธาตุ ถอนพิษฟกช้ำ แก้โรคหนองใน อีกทั้งผักที่ใช้ทำแกงแคก็มีทั้งผักรสเย็น รสเผ็ด รสมัน เช่น ดอกแค เป็นพืชเย็น ช่วยลดความร้อนในร่างกาย แก้ร้อนใน ช่วยถอนพิษไข้ แก้หวัด เหมาะกับผู้ป่วยโรคเบาหวาน ใบพริก ช่วยเจริญอาหาร ช่วยขับลม ช่วยบรรเทาอาการเจ็บปวด ช่วยผ่อนคลาย รักษาไข้หวัด ช่วยแก้อาการคัน ใช้รักษาแผลสดและแผลเปื่อย แกงแคจึงเป็นแกงที่เหมาะกับการปรับธาตุในร่างกายให้เข้ากับสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลง คนโบราณจึงมักกินแกงแคในช่วงเปลี่ยนแปลงฤดูกาลหรือช่วงอากาศเปลี่ยนแปลงนั่นเอง
แกงหน่อไม้ใส่ใบย่านาง (แกงลาว)
เครื่องพริกแกงประกอบด้วยพริกอีสาน มีสารแคปไซซินหรือสารเผ็ดในพริก มีฤทธิ์แก้หวัด บรรเทาอาการปวด ป้องกันมะเร็งและหลอดเหลือดหัวใจตีบ ช่วยให้เจริญอาหาร ช่วยย่อย ช่วยขับลม หอมแดง เกลือสมุทร แกงได้กับหน่อไม้สด (หน่อไม้ไร่) รสชาติจะแซ่บนัว และหน่อไม้ป่าหรือหน่อไม้รวก ชนิดหลังรสชาติจะออกขม ต้องต้มและเทน้ำทิ้งก่อนแกง ถึงจะแซ่บไม่เท่าหน่อไม้สด แต่เมื่อนำมาแกงใส่ผักใส่เห็ดรสหวานก็ได้ความนัวไม่แพ้กัน เอกลักษณ์ของแกงหน่อไม้ที่ขาดไม่ได้ คือ ใบย่านาง ซึ่งนอกจากจะช่วยแก้ความขื่นและขมของหน่อไม้ ยังมีสรรพคุณหลากหลาย เพราะเป็นสมุนไพรเย็นที่มีคลอโรฟิลล์สดจากธรรมชาติ และมีวิตามินที่จำเป็นต่อร่างกาย ในตำราสมุนไพร ใบย่านางถือเป็นยาอายุวัฒนะและมีสรรพคุณทางยาด้านการดับพิษและลดไข้ โดยรากใช้แก้ไข้ทุกชนิด ส่วนใบและเถาจะใช้แก้ไข้ ลดความร้อน
แกงไตปลา
เครื่องพริกแกงประกอบด้วยพริกขี้หนูแห้ง หอมแดง กระเทียม พริกไทยดำ เกลือ พริกขี้หนูสีเขียวและแดง ข่า มีสรรพคุณทางยาช่วยขับลม ขับเสมหะ แก้ฟกช้ำบวม บำรุงธาตุ แก้คลื่นไส้อาเจียน ช่วยการไหลเวียนของเลือด ช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระที่ก่อให้เกิดมะเร็ง ตะไคร้ ผิวมะกรูด ขมิ้น กะปิ เป็นแกงที่มีรสชาติเผ็ดจัด นิยมกินกับข้าวหรือขนมจีน แนมกับผักเหนาะ เช่น ยอดกระถิน ช่วยเสริมสร้างและบำรุงกระดูก ช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือด ช่วยบำรุงหัวใจ ช่วยลดการเกิดนิ่วในกระเพาะอาหาร ยอดมะกอก มีรสฝาดเปรี้ยว สรรพคุณบำรุงร่างกาย แก้หูอักเสบ แก้ร้อนใน แก้กระหายน้ำ รักษาอาการปวดท้อง รักษาอาการท้องเสีย และยอดมะม่วงหิมพานต์ มีสารต้านอนุมูลอิสระหรือสารชะลอ ช่วยบรรเทาอาการท้องร่วง
เรื่องโดย สาธินี กลิ่นศรีสุข