นิวยอร์กโอรีโอชีสเค้ก

306 VIEWS
PIN
SERVES SERVES 10-15 คน LEVEL LEVEL ปานกลาง
ชีสเค้กแบบอบสไตล์อเมริกัน หอมมันตัวครีมชีส ได้ความกรุบกรอบจากฐานโอริโอครีสต์ รสเปรี้ยวอมหวานจากซอสสตรอว์เบอร์รี เป็นขนมหวานฝรั่งที่หลายคนชื่นชอบ

INGREDIENTS

สตรอว์เบอร์รีสดฝานบางสำหรับแต่งหน้า
200
กรัม
เนยสดชนิดจืดละลายสำหรับทาพิมพ์
พิมพ์เค้กแบบถอดฐานได้ ขนาด 9 นิ้ว
อะลูมิเนียมฟอยล์สำหรับหุ้มพิมพ์ถาดอบ
(พิมพ์ขนาด 9 นิ้ว จำนวน 1 พิมพ์)
ซอสสตรอว์เบอร์รี
สตรอว์เบอร์รีสด
250
กรัม
น้ำตาลทราย
1
ช้อนโต๊ะ
แป้งข้าวโพด
1
ช้อนชา
โอรีโอครัสต์
คุกกี้โอรีโอ (ใช้ทั้งชิ้น) โขลกหรือปั่นละเอียด (แพ็กละ 137 กรัม ใช้ 2 แพ็ก)
28
ชิ้น
เนยสดชนิดจืดละลาย
80
กรัม
นิวยอร์กชีสเค้ก
ครีมชีสพักให้นุ่ม
50
กรัม
น้ำตาลทราย
1
ถ้วย
แป้งสาลีอเนกประสงค์
3
ช้อนโต๊ะ
เกลือป่น
¼
ช้อนชา
ไข่ไก่
4
ฟอง
ไข่แดงไข่ไก่
2
ฟอง
กลิ่นวานิลลา
2
ช้อนชา
ซาวร์ครีม
¼
ถ้วย

METHOD

1. ทำซอสสตรอว์เบอร์รีโดยปั่นสตรอว์เบอร์รีจนเนียน ตั้งกระทะบนไฟกลาง ใส่สตรอว์เบอร์รีปั่นและน้ำตาล พอซอสเริ่มเดือดใส่แป้งข้าวโพด เคี่ยวด้วยไฟอ่อนจนซอสข้นขึ้นเล็กน้อย (หากต้องการสีแดงสดหยดสีผสมอาหารลงไป 1 หยด) เตรียมไว้

2. อุ่นเตาอบไฟบนและล่างที่อุณหภูมิ 150 องศาเซลเซียสเตรียมไว้ ใส่น้ำในหม้อเตรียมไว้ (สำหรับใส่ในถาดอบ) หุ้มฐานพิมพ์ด้านนอกด้วยอะลูมิเนียมฟอยล์ (เพื่อป้องกันน้ำไหลเข้า) ทาเนยละลายให้ทั่วด้านในของพิมพ์ เตรียมไว้

3. ทำโอรีโอครัสต์โดยผสมคุกกี้โอรีโอกับเนยละลายเข้าด้วยกันในอ่างผสม กรุใส่พิมพ์เค้ก กดให้แน่น (ใช้ฐานถ้วยตวงกดให้ผิวหน้าเรียบเสมอกัน) เตรียมไว้

4. ทำนิวยอร์กชีสเค้กโดยใส่ครีมชีสลงในอ่างผสม ใช้เครื่องตีไข่ไฟฟ้าตีด้วยความเร็วต่ำสุดจนครีมชีสนุ่มเนียนไม่เป็นลิ่ม (จะทำให้เนื้อเค้กเนียน) ใส่น้ำตาล ตีต่อจนน้ำตาลละลายและเนื้อเนียนเข้ากัน ใส่แป้งสาลีและเกลือ ต่อยไข่ใส่ถ้วยตวงของเหลวเตรียมไว้(จะง่ายขึ้นเวลาเทไข่ทีละฟองใส่ในส่วนผสม) ใส่ไข่ทีละฟอง ตีด้วยความเร็วต่ำสุด (เพื่อไม่ให้เกิดฟองอากาศ) จนเข้ากันดีก่อนใส่ไข่จนหมด ใส่กลิ่นวานิลลาและซาวร์ครีม ตีจนเป็นเนื้อเดียวกัน ส่วนผสมจะเหลวข้นและเนียน เทใส่พิมพ์ ระหว่างทำชีสเค้ก ต้มน้ำในหม้อประมาณ 8 ถ้วย (แล้วแต่ขนาดของถาดอบ) จนเดือด

5. วางพิมพ์ลงในถาดอบขอบสูง นำใส่เตาอบ ค่อยๆเทน้ำร้อนที่ต้มไว้ใส่จนสูงครึ่งหนึ่งของพิมพ์เค้ก (ระวังอย่าให้น้ำกระเด็นใส่หน้าเค้ก) อบนาน 15 นาที ปรับอุณหภูมิเหลือ 100 องศาเซลเซียสอบต่อ 45-55 นาที จนชีสเค้กสุกทั่ว (วิธีทดสอบคือ เขย่าพิมพ์เบาๆถ้าหน้าเค้กไม่สะเทือนตามแรงเขย่าแสดงว่าสุกแล้ว หรือใช้ไม้เสียบถ้าไม่มีของเหลวติดมา (มีแต่เนื้อเค้กติดไม้) แสดงว่าสุกแล้ว)

6. นำชีสเค้กออกจากเตาอบ วางบนตะแกรงพักให้เย็นสนิท (ประมาณ 3 ชั่วโมง) ปิดด้วยพลาสติกแร็ป นำเข้าแช่ในตู้เย็นช่องธรรมดาข้ามคืนเพื่อให้เซตตัว (ต้องแช่ตู้เย็นอย่างน้อย 3-4 ชั่วโมงแต่ดีที่สุดคือแช่ข้ามคืน)

7. แกะออกจากพิมพ์โดยวางพิมพ์เค้กบนกระป๋อง ค่อยๆถอดขอบวงแหวนออก ยกเค้กออกจากกระป๋อง วางจานหรือถาดสะอาดหน้าเรียบลงบนหน้าชีสเค้ก คว่ำเค้กลง แกะฐานพิมพ์ออก วางจานเสิร์ฟบนฐานเค้กและคว่ำกลับเอาหน้าเค้กขึ้น ชีสเค้กที่ผ่านการแช่เย็นข้ามคืนจะเซตตัวดีและขอบเค้กไม่เสียหายขณะแกะออกจากพิมพ์ ราดซอสสตรอว์เบอร์รีเย็นๆ ใช้สเปตูลาหรือช้อนปาดให้ซอสย้อยลงด้านข้างพอสวยงาม ตกแต่งหน้าเค้กด้วยสตรอว์เบอร์รีสดฝานบาง (หรือใช้สตรอว์เบอร์รีทั้งลูกก็ได้) เสิร์ฟเย็นๆ โดยใช้มีดคมๆชุบน้ำอุ่น เชด็ ด้วยผ้าพอหมาดตัด เป็นชิ้น (หากต้องการความสวยงามควรตัดเค้กก่อนแต่งหน้าด้วยสตรอว์เบอร์รี และอย่าใช้น้ำร้อนจัดชุบมีดเพราะมีผลทำให้ขอบเค้กที่ถูกตัดละลาย ไม่คมสวย)

SHARE THIS
RECOMMENDED ARTICLES
RECOMMENDED VIDEOS