INGREDIENTS
METHOD
1. อุ่นเตาอบที่อุณหภูมิ 170 องศาเซลเซียส เตรียมไว้ เตรียมถาดอบโดยปูแผ่นอบซิลิโคน (หากไม่มีให้ปูรองด้วยกระดาษไข)
2. ร่อนแป้งสาลี เบกกิ้งโซดา เกลือ และอบเชยป่น เข้าด้วยกันในอ่างผสม พักไว้ ใส่ข้าวโอ๊ตในอ่างผสมอีกใบ ใช้มือขยำพอหยาบ พักไว้
3. ตีเนยกับน้ำตาลทรายในอ่างผสมด้วยเครื่องตีไข่ไฟฟ้าความเร็วปานกลางจนเนยเริ่มฟูขึ้น แล้วจึงใส่น้ำตาลทรายแดงตีต่อจนฟูเบานานประมาณ 2 นาที แล้วใส่ไข่ไก่และกลิ่นวานิลลาที่ตีพอเข้ากัน พอส่วนผสมเข้ากันดี ใส่แป้งที่ร่อนไว้ตีด้วยความเร็วต่ำสุด ใส่ข้าวโอ๊ตและลูกเกด ตีพอเข้ากัน
4. ใช้สกู๊ปตักไอศกรีมตักเนื้อคุกกี้ (น้ำหนักประมาณ 33 กรัม) วางเรียงในถาดที่เตรียมไว้ (หรือใช้ช้อนตักประมาณ 2 ช้อนโต๊ะ) โดยเว้นระยะห่างระหว่างคุกกี้ประมาณ 3 นิ้ว เพราะคุกกี้จะแผ่ออกเวลาอบ ใส่ถาดละ 6 ชิ้น
5. นำคุกกี้เข้าอบในเตาอบที่อุ่นไว้ อบนาน 15 นาที (ถ้าหยอดก้อนเล็กอบประมาณ 12 นาที) หรือจนมีสีเหลืองทองยกออกจากเตาอบ วางพักในถาดนานประมาณ 5 นาที แซะคุกกี้ออกจากถาด วางพักบนตะแกรงจนคุกกี้เย็นสนิท
Tips
- ข้าวโอ๊ต หรือโรลด์โอ๊ต (Rolled Oats) คือข้าวโอ๊ตทั้งเมล็ด นำไปอบ ตากแห้ง และทับให้แบน นำไปใส่ขนมอบต่างๆหรือรับประทานเป็นอาหารเช้า ส่วนเกล็ดข้าวโอ๊ต หรือโอ๊ตมีล (Oatmeal) คือข้าวโอ๊ตที่นำมาบดหยาบระดับหนึ่ง แล้วนำมาใส่นมเป็นอาหารเช้าที่เรียกว่า porridge ซึ่งมักพบตามซูเปอร์มาร์เกตทั่วไปในลักษณะบรรจุกระป๋องขาย คุกกี้สูตรนี้จะใส่ข้าวโอ๊ต (Rolled Oats) หรือเกล็ดข้าวโอ๊ต (Oatmeal) ก็ได้ หากใช้เกล็ดข้าวโอ๊ตควรใส่ปริมาณน้อยลงกว่าในสูตร 10 กรัม หรือ 1 ช้อนโต๊ะ เพราะเกล็ดข้าวโอ๊ตจะมีลักษณะเป็นผงละเอียดเหมือนแป้ง ซึ่งเวลาใส่ลงไปในคุกกี้จะมีคุณสมบัติดูดของเหลวในเนื้อคุกกี้ ทำให้คุกกี้มีเนื้อหนักและแห้งกว่าการใช้ข้าวโอ๊ต การใส่ผลไม้แห้ง เช่น ลูกเกด แครนเบอร์รี ลงในคุกกี้ ควรแช่ผลไม้แห้งนั้นๆ ในน้ำก่อน เพื่อให้เนื้อผลไม้นุ่มขึ้น หากไม่แช่ ผลไม้จะดูดความชื้นจากเนื้อคุกกี้ออกมาทำให้เนื้อคุกกี้แห้ง สามารถนำเนื้อคุกกี้ใส่ห่อกระดาษไข คลึงเป็นแท่งยาวแล้วแช่เย็นให้พออยู่ตัว จากนั้นนำออกมาตัดเป็นแว่นหนา 1 ซม.