เทมปุระเป็นอาหารวัดฝีมือคนครัวเพราะมีรายละเอียดต้องใส่ใจแทบทุกขั้นตอน แต่ใช่ว่าจะทำกินอร่อยๆในครัวบ้านไม่ได้เคล็ดลับจากพ่อครัวญี่ปุ่นคือทอดอาหารทะเลและผักแค่พอสุก ให้คงรสหวานวัตถุดิบตามธรรมชาติ แป้งกรอบเบาและหอม ราดน้ำซอสทาเระกลมกล่อมอร่อย เป็นเมนูดงบุริโบราณที่รับประทานกันมาตั้งแต่สมัยเอโดะ (ค.ศ.1603-1868)
ปรุงเต้าหู้สไตล์ญี่ปุ่นสมัยใหม่ โดยนำมาคลุกแป้งบางๆแล้วดาดในกระทะจนผิวนอกกรอบน่ากิน ราดซอสรสเค็มหวาน มีทั้งผักลวก เห็ดปรุงรส หอมกลิ่นขิงและปลาแห้ง เป็นอาหารจานสุขภาพที่กินได้เรื่อยๆ
Bakudandon แปลว่า ข้าวหน้าระเบิด บางร้านเรียก Hanabidon (ฮานาบิ หมายถึง ดอกไม้ไฟ) ฟังดูน่ากินกว่าหน่อย แม้เครื่องเคราทุกอย่างจะเหนียวๆหนืดๆ และต้องคลุกทุกอย่างให้เข้ากันก่อนรับประทานจึงดูเละเหมือนโดนระเบิด แต่อุดมไปด้วยคุณค่าทางอาหารเป็นเมนูสุขภาพยอดนิยมของคนญี่ปุ่น
เชฟญี่ปุ่น Harumi Kurihara กล่าวว่า Soboro Bento เป็นความทรงจำวัยเด็กของคนญี่ปุ่นส่วนใหญ่ Soboro หมายถึง สับละเอียด เนื้อไก่และไข่นุ่มไม่แห้งกระด้าง ชุ่มรสอร่อยจากซอสหวานเค็มพอดี นอกจากสีสวยแล้วยังให้คุณค่าอาหารครบถ้วนสำหรับเด็กๆ
ดงบุริตำรับเก่าแก่ที่บางตำราว่าเป็นดงบุริเมนูแรกสุดที่กินในญี่ปุ่น เป็นอาหารยอดนิยมของ
หน้าร้อนเพราะเชื่อว่าช่วยเพิ่มพลังกายและใจ มีการสำรวจไว้ว่าคนญี่ปุ่นชาติเดียวกินปลาไหล
มากถึง 70% ของจำนวนที่จับได้ทั่วโลก พ่อครัวปลาไหลย่างต้องใช้ฝีมือมากตั้งแต่แล่ปลา จุ่มในซอสทาเระก่อนนำไปย่างให้สุกช้าๆบนเตาถ่านจนหวานหอมนุ่มนวล
ในประวัติศาสตร์ที่มนุษย์เกี่ยวพันกับส้ม ไม่ว่าจะชาติใดภาษาใด ไม่เคยปรากฏว่าส้มเกี่ยวข้องกับสิ่งร้ายๆ สำหรับคนจีน ส้มเป็นผลไม้มงคลในยุโรปช่วงศตวรรษที่ 16-19 ส้มเป็นสัญลักษณ์ของบารมีและความมั่งคั่งตระกูลเศรษฐี Medici แห่งฟลอเรนซ์ มีผลส้มเป็นตราประจำตระกูลการทำสวนส้มในเรือนกระจกเป็นงานอดิเรกของขุนนางและเศรษฐีอังกฤษส้มใช้ทำกับข้าวได้อร่อยมาก ครัวจีนครัวฝรั่งต่างใช้ทั้งเนื้อส้ม น้ำส้ม และเปลือกส้ม มาปรุงอาหาร เพราะมีกลิ่นหอมสดชื่น รสเปรี้ยวหวานอร่อย
คนไทยเรียก Kabocha ว่าฟักทองญี่ปุ่น แต่จริงๆแล้วฟักทองสายพันธุ์นี้พ่อค้าชาวโปรตุเกสเป็นผู้นำเข้ามาในช่วงปี ค.ศ.1540 และปลูกกันอย่างแพร่หลาย ช่วงหลังสงครามโลกครั้งที่สองเมื่อญี่ปุ่นแพ้สงครามอาหารการกินฝืดเคืองอย่างหนัก แต่ชาวญี่ปุ่นรอดชีวิตมาได้ด้วยฟักทองและมันหวาน (sweet potato) ฟักทองญี่ปุ่นเนื้อนุ่มหวานอร่อย มักนำมาต้มกับดาชิ (น้ำซุปปลาญี่ปุ่น) ต้มซีอิ๊ว หรือชุบแป้งทอดทำเป็นเทมปุระ
มีคำกล่าวว่า ถ้าไม่นับกระดาษ ดินปืน และเข็มทิศแล้ว เต้าหู้นับเป็นสิ่งประดิษฐ์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของชาวจีน เต้าหู้เป็นโปรตีนจากพืชที่อุดมไปด้วยคุณค่าอาหาร ราคาถูก และสารพัดประโยชน์ เพราะปรุงได้หลากหลายตำรับเหลือเกิน ตำรับนี้ได้แรงบันดาลใจมาจาก Agedashi Tofu หรือเต้าหู้ชุบแป้งทอดราดน้ำซอสดาชิสไตล์ญี่ปุ่น แต่ในที่นี้ไม่ใช้เต้าหู้ทอด และปรุงรสน้ำซุปปลาญี่ปุ่นให้เผ็ดเล็กน้อยชวนกิน
ต้นกำเนิดของเทมปุระน่าจะมีที่มาจากสองทาง ทางหนึ่งคือพระญี่ปุ่นสมัยก่อนศตวรรษที่ 17 ท่านฉันแต่อาหารเจ จึงคิดเอาผักมาทอดน้ำมันบ้างว่าบาทหลวงโปรตุเกสและสเปนเดินทางมาถึงเกาะญี่ปุ่นและดัดแปลงเอาปลา กุ้ง และผัก มาชุบแป้งทอด เพราะข้อห้ามทางศาสนาที่มิให้บริโภคเนื้อสัตว์ใหญ่ในวันศุกร์ (วันที่พระเยซูถูกตรึงกางเขน) อย่างไรก็ตามในยุคนั้นน้ำมันทอดราคาแพง โดยเฉพาะน้ำมันงา มีพ่อค้าหัวใสนำน้ำมันพืชที่ราคาถูกกว่ามาผสมน้ำมันงาเอาไปทอดเทมปุระ ปรากฏว่าอร่อยถูกใจ ตั้งแต่นั้นมาร้านเทมปุระจึงใช้น้ำมันผสมในการทอด
โอซาก้าและฮิโรชิมาเป็นสองเมืองที่ขึ้นชื่อลือชาเรื่อง Okonomiyaki หรือพิซซ่าญี่ปุ่น/แพนเค้กญี่ปุ่นตามแต่จะเรียก แพร่หลายมากในญี่ปุ่นช่วงหลังสงครามโลกครั้งที่สอง แม่บ้านที่ต้องหาเลี้ยงชีพเพราะสามีเสียชีวิตในสงครามต่างเปิดร้านเล็กๆขายแพนเค้กกะหล่ำปลี มีราคาไม่แพง เหมาะกับสภาพเศรษฐกิจหลังสงคราม ต่อมาพัฒนาสูตรมาใส่เนื้อสัตว์ ตำรับโอซาก้าใส่กะหล่ำปลีและเนื้อหมูสามชั้น (สูตรดั้งเดิมใช้หมูสับ) มีปลาหมึก กุ้ง ไก่ หรือแม้แต่กิมจิ พ่อครัวฮิโรชิมาจะใส่บะหมี่ปรุงรส โปะด้วยแผ่นไข่ กะหล่ำปลี และเนื้อสัตว์ กินรวมกันแล้วอร่อย
ซูชิเป็นอาหารยอดนิยมที่เปลี่ยนแปลงไปตามกาลเวลา เริ่มตั้งแต่เป็นภูมิปัญญาการถนอมอาหารของคนญี่ปุ่นสมัยโบราณ พัฒนามาเป็นสตรีทฟู้ดยุคแรกๆของญี่ปุ่น แต่ยังใช้อาหารทะเลปรุงสุก จนกระทั่งพ่อครัวซูชิลองใช้ปลาดิบ ปรากฏว่าได้รับความนิยมเรื่อยมา ช่วงปลายทศวรรษที่ 1970 ซูชิข้ามน้ำข้ามทะเลไปโดนใจอเมริกันชน และถูกปรับปรุงเป็นซูชิโรลแบบฟิวชั่น เน้นสีสันและรสชาติแปลกใหม่ แถมยังข้ามฟากกลับไปเป็นเทรนดี้ซูชิขายคนญี่ปุ่น เรียกว่า American style sushi