แกงบุ่มไบ่ แกงรัญจวน แกงระแวง และแกงนางลอย แกงไทยโบราณที่นานทีจะได้ยินชื่อสักหนหนึ่ง แต่หากได้ลองชิมดูสักคำรับรองว่าอร่อยจนต้องจำชื่อนี้ไปตลอดเลยเทียว

แกงระแวง นี้ ถือเป็นแกงโบราณอย่างหนึ่งที่มีมาตั้งแต่สมัยทวาราวดี มีลักษณะคล้ายพะแนง แต่ใช้พริกแกงเขียวหวานที่เติมขมิ้น จึงมีสีสันออกสีเหลืองทอง ใกล้เคียงแกงเขียวหวานผสมแกงขมิ้นหรือแกงกะหรี่ แต่ในส่วนของรสชาตินั้น แกงระแวงจะมีความเข้มข้นกว่า เพราะมีน้ำแกงที่ขลุกขลิก เหมือนกึ่งแกงกึ่งผัด แต่ความข้นเหนียวจะไม่เท่ากับพะแนง พร้อมทั้งมีกลิ่นหอมและรสชาติของตะไคร้ ยี่หร่า ลูกผักชี และขมิ้น ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของเครื่องแกงธีระแวง สำหรับการทำแกงระแวง ส่วนใหญ่จะใช้เนื้อวัวหั่นชิ้นพอคำ นำมาเคี่ยวกับหางกะทิไปเรื่อยๆ จนทำให้น้ำหางกะทิงวดลงจนขลุกขลิก การทำแกงระแวงเนื้อแบบโบราณนั้น ควรเริ่มต้นจากการคัดวัตถุดิบหลักคือ เนื้อวัว โดยเลือกใช้ส่วนที่อร่อยที่สุดอย่าง “แก้มวัว” ที่คนส่วนใหญ่อาจคิดว่ารับประทานไม่ได้ แต่ที่จริงแล้วเป็นส่วนของเนื้อที่มีรสสัมผัสเหนียวนุ่ม สามารถนำมาทำให้อร่อยได้ แถมแก้มวัวยังอุดมไปด้วยคอลลาเจนตามธรรมชาติ ที่เกิดจากการเคี้ยวบดหญ้าตลอดเวลาของวัว ทั้งยังถือเป็นการรักษาคุณค่าของอาหาร

แกงนางลอย กับข้าวชาววัง เป็นแกงประเภทแกงเผ็ดที่เข้ากะทิ ที่มีนางเอกก็คือพริกหยวก สีเขียวอ่อน รสชาติหวานกรอบ ก็นำมาผ่านำเมล็ดพริกและไส้พริกออก นำหมูบดที่ปรุงรสด้วยเกลือและสามเกลอ สอดไส้ใส่ลงไปให้ขนาดพอดีกับพริกหยวก จะใช้ไก่สับหรือหมูสับก็แล้วแต่สะดวก ผัดน้ำพริกแกงกับกะทิ ให้หอมและแตกมัน ปรุงรสด้วย น้ำตาลมะพร้าวและน้ำปลา ให้รสชาติหวาน เค็ม กลมกล่อม นำพริกหยวกที่ยัดไส้มาเคี่ยวกับน้ำแกงเผ็ด รอให้เดือดซักครู่ ตักใส่ถ้วย เสิร์ฟกับข้าวสวยร้อนๆ แกงนางลอย รสชาติ จะหวานนำเค็ม และมีรสกลมกล่อมที่ได้จากกะทิคั้นสด เป็นความอร่อยที่หารับประทานได้ยาก ในยุคปัจจุบันนี้ แต่ก็ยังสามารถทำได้เอง วิธีการทำการแกงไทยโบราณตามตำรับดั้งเดิม ที่ยังคงมีมนต์เสน่ห์ในตัวเอง ให้คนรุ่นใหม่ๆ ได้รู้จักกัน และช่วยกันสืบสาน เพื่อรักษาเอกลักษณ์มรดกทางวัฒนธรรมนี้เอาไว้ไม่ให้สูญหายไปไหน

แกงบุ่มไบ่ เป็นแกงโบราณของไทยที่มีลักษณะคล้ายของแกงอินเดีย นิยมแกงกับไก่หรือเนื้อวัว ใส่เครื่องเทศหลากหลายชนิดที่นำมาโขลกเป็นน้ำพริกแกงบุมไบ่ เช่น พริกไทยขาว ลูกผักชี ขมิ้น ข่า ตะไคร้ หอมแดง และกระเทียม เคี่ยวกับกะทิหอมๆ จนแตกมัน มีกลิ่นหอมจากขมิ้น และเครื่องเทศ รสเปรี้ยวจากมะขามเปียก หวาน และเค็มเล็กน้อย บันทึกเกี่ยวกับแกงไทยโบราณชนิดนี้ที่เก่าที่สุด อยู่ในสมัยรัชกาลที่ 5 นิยมใส่ผักเช่น หอมใหญ่ แตงร้าน มะเขือเทศท้อ หรือมัน แกงบุมไบ่ ปัจจุบัน หารับประทานยาก ด้วยวิธีการการโขลกน้ำพริกแกงที่ต้องสดใหม่นั้นเอง

ชื่อแสนไพเราะของแกงรัญจวนมีที่มาจาก หม่อมเจ้าหญิงแย้มเยื้อน สิงหรา ซึ่งเป็นคนคิดค้นสูตรแกงรัญจวน และตั้งชื่อให้เมนูแกงไทยโบราณ สูตรชาววังจานนี้ว่าแกงรัญจวน สมัยก่อนเจ้านายพระองค์ต่าง ๆ มักจะเสวยอาหารอย่างละนิดละหน่อยเท่านั้น ทำให้กับข้าวซึ่งส่วนมากจะเป็นเนื้อหลงเหลืออยู่เยอะ ฝ่ายห้องครัวจึงนำเนื้อที่เหลือจากสำรับเสวยมาปรุงรสเป็นแกงสูตรใหม่ที่มีชื่อว่าแกงรัญจวนนั่นเอง ส่วนเคล็ดลับสูตรเด็ดของแกงรัญจวนก็ไม่ได้มีขั้นตอนที่ซับซ้อนวุ่นวายนัก เพียงแค่ต้องตำน้ำพริกกะปิให้รสจัด เน้นครบรสทั้งเผ็ด เปรี้ยว และเค็ม จากนั้นก็นำเนื้อหรือหมูมาต้มให้เปื่อยได้ที่ แล้วจึงใส่น้ำพริกกะปิที่เตรียมไว้ลงไป ปรุงรสชาติตามชอบ ตามด้วยใส่ใบโหระพาเพื่อเพิ่มกลิ่นหอมก่อน เสิร์ฟพร้อมข้าวสวยร้อนๆเท่านี้ก็เรียบร้อย

ถอดรหัสรสหวานมันของกะทิสด ตัวชูรสขับกลิ่นเครื่องแกงไทย และการแบ่งแยกคุณสมบัติความข้นจางของหัว-กลาง-หางกะทิ

เผยความลับของเกล็ดเกลือ นำไปใช้อย่างไรให้ได้ประโยชน์มากกว่าเครื่องปรุงรสเค็ม

เช้าก็ไม่ใช่ เที่ยงก็ไม่เชิง กับเมนูบรันช์เอาใจคนตื่นสาย พร้อมแจกสูตร 4 เมนูง่าย ๆ ให้ได้เติมพลังในวันหยุดนี้กัน

เมนู Brunch อย่างแซนด์วิชโรลกุ้ง เนื้อกุ้งสดเน้นๆเต็มคำ เป็นแซนด์วิชที่อัดแน่นไปด้วยเนื้อกุ้งคลุกเคล้าด้วยเซอเลอรี่หั้นเป็นชิ้นเล็กๆ และมายองเนส ปรุงรสด้วยเกลือ พริกไทยดำป่น และน้ำเลมอนและผิวเลมอนให้หอมสดชื่นอีกนิดหน่อย คลุกเคล้าให้เข้ากัน ผสมเนยสมุนไพรเข้าด้วยกันและนำไปทาบนขนมปังก่อนนำไปปิ้งให้หอม โดยรับประทานพร้อมกับมันฝรั่งทอดกรอบและน้ำส้มคั้นสดๆ เป็นมื้อที่อิ่มอร่อยเต็มคำ ในเวลารีบๆได้อีกด้วยละ

เมนูคีช คือ เมนูอาหารคาวที่ต้องใช้เตาอบ มีส่วนประกอบหลัก ของไข่ไก่ นม และครีม พร้อมทั้งใส่เนื้อสัตว์ต่างๆ ตามใจชอบของเรา คีชประกอบไปด้วยแป้งพาย ผสมเนยเย็นชนิดจืด แป้ง ไข่ไก่และเกลือ แค่ถึงพูดก็อยากกินซะแล้ว เมนู Brunch ไม่ได้ยาก วันหยุดทั้งทีจะได้อิ่มอร่อยกับเมนูอาหาร ง่ายๆ สาวๆคนไหนตื่นสาย มาทานเมนู Brunch ควบคู่กันไปเลยดีกว่า เพราะจะได้รับพลังงานที่เหมาะสมสำหรับเวลาที่เหลือของวัน ไม่เบาไป ไม่หนักไป กับวันสบายๆ หอมกรุ่นไปด้วยนมและชีสยืดๆ

เบคอน ขนมปัง และชีส ยากจริงๆ ที่จะปฎิเสธ เมื่อทั้งสามอย่างมารวมกัน ก็ไม่ต้องสืบเลยว่าความฟินความอร่อยนั้นจะเป็นอย่างไร นำขนมปังทาด้วยเนย วางขนมปัง ตามด้วยมอสซาเลล่าชีสและเชดด้าชีสแผ่นลงไป นำขนมปังอีกแผ่นประกบเข้าด้วยกัน นำเบคอนมาวางเรียงทีละแผ่น ให้เรียงติดกัน วางขนมปังลงตรงกลาง ห่อด้วยเบคอนให้มิดชิด นำไปทอดบนกระทะด้วยไฟกลาง นำไปอบต่อในเตาอบไฟบนล่าง 180 องศา อย่างน้อย 8 นาทีหรือจนกว่าให้เบคอน เหลืองหอม จนครบทุกด้าน ตักขึ้น ใช้มีดหั่นครึ่งโรยด้วย พาสเลย์สับ เสิร์ฟพร้อมไข่คนนุ่มๆ และผักย่างต่างๆอย่างหนอไม้ฝรั่งและมะเขือเทสสดๆ เป็นยังไงบ้างละ ถ้าตื่นขึ้นมาสายๆ ในวันหยุด แล้วได้ทานเมนูแซนวิชเบคอนชีสไข่คน จะฟินและอิ่มอร่อยแค่ไหน ใครไม่กลัวอ้วนมากินเมนูแซนวิชเบคอนชีสกันให้อิ่มพุงกลมกันเลย

ขยะจากเศษอาหารของแต่ละบ้าน ก็เป็นหนึ่งในปัญหาสิ่งแวดล้อมได้เหมือนกัน ว่าแต่จะต้องทำอย่างไรกับเศษอาหารดีล่ะ?