

แมงโกกุลฟี (Mango Kulfi) ไอศกรีมนมของคนอินเดียที่เพิ่มความพิเศษโดยการใส่เนื้อมะม่วงสุกที่ปั่นแล้วลงไปผสมอยู่ในเนื้อไอศกรีมด้วย ทำให้เนื้อสัมผัสที่ได้จะมีความครีมๆนมและหวานหอมกลิ่นผลไม้ที่สำคัญไม่ทิ้งเอกลักษณ์ความเป็นอินเดียด้วยการใส่เครื่องเทศอย่างกระวานเขียวและหญ้าฝรั่งลงไปด้วยตอนต้มนมเพื่อให้ได้กลิ่นหอมเล็กน้อย


มาลัยกุลฟี่ (Malai Kulfi) ในสูตรนี้จะมีนมสดชนิดจืด (แบบไขมันสูง) น้ำตาล หัวนมผง (อันนี้เพิ่มกลิ่นหอมนมมากยิ่งขึ้น) กระวานเขียว หญ้าฝรั่น อัลมอนด์ เม็ดมะม่วง และพิตาชิโอ เป็นส่วนผสมหลัก ซึ่งขั้นตอนการทำ มาลัยกุลฟี (Malai Kulfi) ก็ไม่ยาก หลักๆก็คือการนำนมสดไปเคี่ยวให้เกิดความข้น กับน้ำตาลและหัวนมผง ให้ข้นจนเปลี่ยนสี (คล้ายสีนมข้นหวาน) แล้วใส่เครื่องเทศอย่างเม็ดกระวานและหญ้าฝรั่น เคี่…


พิตาชิโอกุลฟี่ (Pistachio Kulfi) เมนูนี้เพิ่มส่วนผสมสำคัญลงไปอย่างวิปปิ้งครีมและพิตาชิโอ โดยนำนม ครีม และน้ำตาล เคี่ยวให้ข้น ใส่เครื่องเทศอย่างกระวานลงไปเล็กน้อย เพื่อให้ได้กลิ่นจางๆ ปิดท้ายด้วยพิตาชิโอที่ผ่านการต้มให้นุ่มและนำเปลือกที่หุ้มออก ไปปั่นรวมกับส่วนผสมนมข้างต้นให้ได้เป็นเนื้อครีมมันๆ หอมกลิ่นพิตาชิโอ เมนูนี้เรียกได้ว่าถูกใจสายพิตาชิโอเป็นแน่ แต่หากใครจะเปลี่ยนรสชาติ…


ซาโมซาไส้มังสวิรัติอีกอันที่เป็นที่นิยมไม่แพ้ไส้มันฝรั่งก็คือไส้ปานีร์ เราเอาผักโขมมาผัดกับเครื่องเทศ แล้วใส่ชีสปานีร์ซึ่งเป็นชีสที่นิยมในอาหารอินเดียที่เป็นมังสวิรัติทุกจาน ใส่ชีสมากน้อยแล้วแต่ความชอบ ผัดให้รสออกเค็มๆกลิ่นหอมเครื่องเทศ เมื่อผสมกับปานีร์จะออกมันกลมกล่อมพอดี กินกับน้ำจิ้มชัดนีเปรี้ยวๆอร่อยนักแล


ไส้ซาโมซาที่ได้รับความนิยมมากที่สุดคือไส้มังสวิรัติอย่างมันฝรั่ง บางสูตรจะใส่ถั่วลันเตาเข้าไปกับมันฝรั่งด้วย มันฝรั่งนำไปต้มทั้งหัวจนสุกนุ่ม แล้วจึงเอามาผัดกับเครื่องเทศให้หอม ที่สำคัญมันฝรั่งต้องยังพอให้เห็นเป็นชิ้นเต๋าๆไม่ผัดไปจนนุ่มเละเป็นเนื้อเดียวกัน ไส้ต้องมีกลิ่นเครื่องเทศ ขิงและพริกสด รสเค็ม มีเปรี้ยวอ่อนๆตอนท้าย สูตรนี้ใช้บีบน้ำมะนาวตอนท้าย หรือบางคนจะใส่เครื่อง…


ซาโมซาไส้เนื้อหอมกลิ่นเครื่องเทศอ่อนๆ รสชาติไม่เผ็ดร้อน เคล็ดลับเลือกเนื้อบดติดมันเวลาเอาไปทอดด้านในจะชุ่มฉ่ำกำลังดี ใครไม่มีเครื่องเทศอินเดียอย่างมาซาลา (masala) หรือพริกป่นอินเดีย (Kashmiri chili powder) จะไม่ต้องใส่ก็ได้ หรืออาจใช้พริกขี้หนูป่นแบบไทยแทนได้ แต่ใส่ปริมาณให้น้อยลงเพราะรสเผ็ดกว่า


โมโม่ (momo) เกี๊ยวนึ่งสอดไส้ อาหารจานเด็ดของชาวเนปาล กินเป็นอาหารว่างหรืออาหารจานหลัก รูปลักษณ์ของโมโม่คล้ายเสี่ยวเหลาเปาหรือติ่มซำของจีน ตัวไส้มีการปรุงคล้ายไส้เกี๊ยวซ่า มีทั้งไส้ผักล้วน ไส้ผักผสมชีสและไส้เนื้อสัตว์บดผสมผัก ในไทยจะเจอเนื้อไก่ หมู แกะ ส่วนออริจินอลจะเป็นเนื้อควายหรือเนื้อจามารี เสิร์ฟได้หลายเเบบทั้งเเบบนึ่ง ทอด ราดน้ำแกงเเละเกี๊ยวน้ำ สูตรนี้เป็น โจล โมโม่ (Jho…


เมนูเครื่องดื่มสมูทตี้สัญชาติอินเดีย ที่ทุกคนรู้จักกันดีอย่าง “ลาสซี่ (Lassi)” นำมาทำเป็นเมนูอย่าง Mango Lassi หอม หวาน เย็นชื่นใจ รสเปรี้ยวจากโยเกิร์ต หวานจากมะม่วง และที่สำคัญหอมกลิ่นเครื่องเทศอย่างกระวานป่นและอบเชยป่น


เคบับ หรือ กะบับ (kabab) เมนูที่คุ้นหน้าคุ้นตากันดี แต่สูตรนี้จะว่าคุ้นไหมก็จะไม่ค่อยคุ้นเท่าไหร่ เพราะเราอยากจะทำเคบับที่สามารถทำเองได้ที่บ้าน คล้ายที่ร้านแต่ไม่ต้องไปซื้อร้าน โดยที่มีแค่ตะเกียบและกระทะเท่านั้น และมีสูตรซอสสุดแซ่บที่เข้ากันสุดๆ


มาซาล่าจาย เครื่องดื่ม welcome drink ประจำบ้านเชฟน่าน ที่แขกไปใครมาก็จะชงมาซาล่าจายให้ดื่มเสมอ เพราะว่าชาผสมเครื่องเทศตัวนี้หอมเป็นเอกลักษณ์ ทำไม่ยาก แถมดื่มง่าย จะกินคู่กับขนมอะไรก็เข้ากัน


"โอนิงิริ" ก็คือข้าวปั้นของญี่ปุ่นที่มีลักษณะสามเหลี่ยม ห่อด้วยสาหร่าย โดยจะมีไส้ข้างใน แต่วันนี้เราจะนำข้าวไปคลุกกับแฮมที่ผัดซอสเทริยากิ จากนั้นเราก็นำข้าวมาห่อชีสมอซซาเรลลาก้อนใหญ่ๆ ปั้นเป็นก้อนสามเหลี่ยมห่อด้วยสาหร่ายและนำเอาไปย่างในกระทะให้ชีสยืดและข้าวสีสวย


เป็นขนมหวานอินเดียที่เป็นที่นิยมไปทั่วเอเชียใต้และตะวันออกกลาง เป็นขนมหวานที่มีความละม้ายคล้ายกำไล ความเชื่อส่วนใหญ่มักจะพูดกันว่าเป็น ขนมที่ทำบูชาพระศรีอุมาเทวี


องค์พระพิฆเณศเองยังได้ประกาศพรไว้ด้วยว่า “หากผู้ใดถวายบูชาตัวข้าด้วยขนมลาดู ความปราถนาใดๆ ของผู้นั้น ข้าจะบันดาลความสำเร็จให้แก่ผู้นั้น” ลาดูจึงจัดเป็นขนมที่มีพูดถึงมากเป็นอันดับต้นๆ ในการบูชาพระพิฆเณศ รสชาติของตัวขนมจะหวานมัน


คำว่ากุหลาบในที่นี้ หมายถึงดอกกุหลาบตรงตัวเลย สำหรับอินเดียแล้วดอกไม้ส่วนใหญ่ให้เป็นตัวแทนของผู้หญิง กุหลาบจามุนจึงเป็นขนมที่ถูกบูชาให้กับเทพที่เป็นผู้หญิงซะส่วนใหญ่ รสชาติจะคล้ายกับนมข้น มีกลิ่นหอมของนม อร่อย และหอมกระวาน


หมูสันนอกหั่นชิ้นพอดีๆหมักเครื่องเทศและสมุนไพรเผ็ดร้อนอย่างขิง ขมิ้น กระเทียม นำไปย่างกระทะให้ผิวด้านนอกแห้ง ด้านในสุกฉ่ำกำลังพอดี ไม่แห้งจนเกินไป กินกับมันม่วงบดและผักกาดคอสสดกรอบ


ซี่โครงหมูย่างเกรียมๆหอมกลิ่นพะโล้ผสมพริกเสฉวน กินกับซอสพริกทำเองสไตล์ยุโรปโดยใช้ซอสมะเขือเทศเคี่ยวผสมกับมัสตาร์ด หอม กระเทียม ตัดรสด้วยทาบัสโก้ให้เผ็ดอ่อนๆ รสเผ็ดแบบจีนกับฝรั่งเข้ากันอย่างไม่น่าเชื่อ


หมูสันในหมักกับเครื่องเทศสดอย่างออริกาโน โรสแมรี ตัดด้วยน้ำมะนาวเพื่อชูกลิ่นเครื่องเทศให้ชัดขึ้น นำไปย่างจนเกรียมหอมกลิ่นเครื่องเทศ รับประทานกับสลัดเฟต้าและขนมปังนานย่าง


"pad thai-ผัดไทย" เมนูอาหารไทยมีชื่อเสียงในระดับสากล รสชาติที่อร่อย น่าหลงไหล ไม่แปลกใจเลยครับ ทำไมทั่วโลกถึงให้การยอมรับ


แกงอินเดียแบบมังสวิรัติ เอาปาร์นีมาแทนเนื้อไก่ในบัตเตอร์มาซาลา บัตเตอร์มาซาลาเป็นแกงอินเดียที่กินง่าย รสชาติคล้ายพาสต้าซอสมะเขือเทศ กินคู่กับขนมปังนาน ใครอยากลองกินอาหารอินเดียแบบกลิ่นเครื่องเทศไม่จัดจ้านควรลอง


ปาร์นีติกกา ทำง่ายๆโดยเอาปานีร์มาหมักกับเครื่องเทศผสมโยเกิร์ต โยเกิร์ตจะเป็นตัวเชื่อมให้เครื่องเทศซึมเข้าเนื้อปานีร์ เหมือนเวลาเราหมักไก่ทันดูรี แต่อันนี้ใช้ชีสปานีร์แทนไก่ แล้วเอามาเสียบไม้ย่าง เวลาย่างผิวปานีร์จะแห้งและหอมเครื่องเทศสุดๆ ถ้าใครหาซื้อผงหมักไก่ทันดูรีได้ยิ่งดี ไม่ต้องผสมเครื่องเทศหลายชนิดเอง


หมักพอร์กชอปกับน้ำผึ้ง น้ำส้มสายชูไวน์แดง บัลซามิก และเครื่องเทศจนเข้าเนื้อแล้ว พอนำพอร์กชอปไปย่างให้เหลืองสวย แล้วนำน้ำหมักมาเคี่ยวเป็นซอสราดกินคู่กับหอมใหญ่ชุบแป้งทอดและถั่วผัดเนย


ภาคใต้ก็ทำเมนูไข่มดแดงกินเช่นเดียวกับครัวล้านนาและครัวอีสานเช่นกัน แต่ว่าทางภาคใต้จะนิยมนำมาต้มกับกะทิ คล้ายกับเมนูใบเหลียง รสชาติจะออกมันๆหวานๆหอมกลิ่นเครื่องสมุนไพรอย่างตะไคร้และหอมแดง มีความเผ็ดเล็กน้อยจากการบุบพริกขี้หนูสวนใส่ลงไปตอนท้าย ความลงตัวกันของกะทิและไข่มดแดงนั้นทำให้ออกมาเป็นเมนูที่อร่อยเลย


อาหารที่กินทั่วไปในอินเดีย นิยมปรุงกับเนื้อสัตว์เป็นหลักไม่ว่าจะเป็นเเพะ ไก่ กุ้งหรือปลา หอมกลิ่นเครื่องเทศนานาชนิดทั้งกระวานเขียว ยี่หร่า การัมมาซาลา ใบกระวาน เอกลักษณ์ของเมนูนี้อยู่ที่การใช้ข้าวบาสมาติ ข้าวเม็ดเรียวยาวมาต้มกับเครื่องเทศสมุนไพรจนพอสุกเป็นตากบ นำมาอบกับไก่ที่เคี่ยวมาเเล้วให้สุกอย่างช้าๆ เสิร์ฟโดยตักข้าวจากก้นกระทะขึ้นมาห้ามคนรวมกัน เป็นเมนูที่ทำกินเองได้ที่…