เมื่อพูดถึงสตรีทฟู๊ดเกาหลี เมนูที่จะขาดไม่ได้เลยก็คือ “ ต๊อกโบกี” อาหารริมทางยอดนิยม ทำมาจากแป้งต๊อกเนื้อนุ่มเหนียวเคี้ยวหนุบหนับ ผัดกับซอสรสเผ็ดๆหวานๆเข้มข้น ใส่เครื่องจัดเต็มทั้งผัก เนื้อสัตว์ ออมุก ไข่ต้มและชีส เป็นเมนูที่ทำกินได้ง่าย อร่อย ถูกปากทุกเพศทุกวัย
“มันดู” หรือเกี๊ยวเกาหลี ถือเป็นเมนูริมทางสุดฮิต ลักษณะคล้ายกับเกี๊ยวจีนหรือเกี๊ยวซ่าญี่ปุ่น ทำจากแป้งเกี๊ยวเเล้วนำมาห่อไส้ที่ทำมาจากหมูบด กิมจิ เต้าหู้ เเละวุ้นเส้นเกาหลี จากนั้นนำไปทอดจนสุก กรอบนอกนุ่มใน อันแน่นไปด้วยไส้ได้รสกิมจิเต็มๆ
โฮต๊อก แป้งทอดที่มีลักษณะแบน ด้านนอกกรอบๆ หนานุ่มมีไส้ด้านใน โดยมีทั้งไส้หวานและไส้คาว ไส้หวานจะเป็นน้ำตาล ผงชินนามอนและถั่ว รสชาติคล้ายโดนัทรสคาราเมล ส่วนไส้คาวจะเรียกวว่า จับแชโฮต๊อก เป็นวุ้นเส้นเกาหลีผสมกับซีอิ๊วญี่ปุ่น น้ำมันงา แครอท ต้นหอม กินเพลินมาก
แกงกระหรี่เนื้อน่องลาย เมนูอาหารญี่ปุ่นที่ทำง่ายมากอย่างแกงกระหรี่นั้น แค่มี แครอท มันฝรั่ง หอมใหญ่ก็อร่อยได้แล้ว แต่ๆ การเพิ่มเนื้อสัตว์ลงไปในแกงกระหรี่นั้นจะทำให้อร่อยยิ่งขึ้นไปอีก ใส่เนื้อน่องลายบ้านเรานี่เเหละ อร่อยแน่นอน เพราะในเนื้อน่องลายมีรสชาติเข้มข้น มีความกรุบกรอบของเนื้อ มีเส้นเอ็นที่พอนำไปเคี่ยวให้นุ่มเเล้วจะ อร่อย สายเนื้อวัวไม่ควรพลาดเมนูนี้แน่นอน
เนื้อเค็มแห้งทอด เป็นอาหารง่ายๆ แต่อร่อยและมีประโยชน์ ได้โปรตีนจากเนื้อสัตว์ และมีความสะดวกในการรับประทาน คนสมัยก่อนนิยมทำเนื้อเค็มแห้งเอาไว้เป็นเสบียงเวลาเดินทาง หรือกระทั่งเก็บเนื้อสัตว์เอาไว้กินให้ได้นานขึ้น ปัจจุบันแม้จะมีความสะดวกในการเก็บรักษาและความสะดวกในการหาซื้ออาหารสด แต่เนื้อเค็มก็ยังเป็นหนึ่งในเมนูอร่อยที่ใครๆ ก็ชอบที่จะมีไว้ทาน ยิ่งทานเนื้อเค็มทอดกับข้าวร้อนๆ ไม่ว่าจะข้าวหุงหรือข้าวเหนียวก็อร่อยได้ ถ้าทานกับข้าวเหนียวร้อนๆ นี่ต้องระวัง เพราะหยุดทานยากเหลือเกิน เค็มๆ มันๆ เคี้ยวหนุบหนับๆ เนื้อเค็มแห้งนั้นทำได้ไม่ยาก เราสามารถทำเนื้อเค็มแห้งและนำมาทอด และเก็บเอาไว้เป็นอาหารทานได้นานๆ โดยไม่ต้องกังวลเรื่องคุณภาพและเนื้อเค็ม เมนูเนื้อที่มักจะเห็นขายกันตามตลาดหรือย่านต่างๆ ทั่วไป เนื้อที่เอาไปหมักกับเกลือหรือซอสต่างๆที่เน้นความเค็มเป็นหลักการเพื่อถนอมเนื้อให้เก็บไว้ได้นานยิ่งขึ้น เนื้อที่หมักได้ที่ทั้งแบบตากแดดหรือเข้าเตาอบ และนำไปทอด ก็จะได้เนื้อเค็มที่แสนอร่อย เอาไปกินเล่นหรือทานกับข้าวเหนียวก็เข้ากันได้ดี แต่ทว่า ไม่ได้มีแต่เนื้อเค็มเท่านั้นที่อร่อย เนื้อหมูก็สามารถนำไปทำหมูเค็มได้เช่นกัน
“ไก่ทอดเกาหลี” เมนูของโปรดของฝ่าบาท โดยเลือกใช้ชิ้นส่วนน่องไก่นำมาหมักกับน้ำส้มสายชูหมักจากข้าว ซีอิ๊ว มิริน กระเทียม และพริกไทย หมักทิ้งไว้ประมาณ 30 นาทีเพื่อให้รสชาติซึมเข้าเนื้ออย่างเต็มที จากนั้นก็นำแป้งทอดกรอบ (ซึ่งครั้งนี้ลองซื้อแป้งทอดกรอบของเกาหลีมาใช้ดูว่าจะเป็นยังไง) ใส่ลงในอ่างผสมไก่เคล้าให้ส่วนผสมแป้งเคลือบเนื้อไก่จนทั่ว ซึ่งลักษณะที่ได้จะเป็นคล้ายๆแป้งเปียกหน่อยๆ จากนั้นก็นำเนื้อไก่มาเคล้ากับแป้งแห้งอีกครั้งก่อนนำไปทอดในน้ำมัน โดยจะทอดด้วยกัน 2 รอบโดยรอบแรกจะทอดด้วยน้ำมันปานกลางเสียก่อน แล้วนำขึ้นมา แล้วเร่งไฟแรงแล้วนำไก่ลงทอดอีกครั้ง การทอดไก่ 2 ครั้งนั้นจะเป็นการไล่น้ำมันออกทำให้ไก่ไม่อมน้ำมัน และผิวกรอบอีกด้วย ส่วนตัวซอสกาลิคนั้นก็เคี่ยวส่วนผสมให้งวดเล็กน้อยจากนั้นก็นำไก่ลงไปเคล้าหรือใช้วิธีใช้แปรงทาซอสให้ทั่วชิ้นไก่ก็ได้เช่นกัน
“ไข่นกกระทาต้มซีอิ๊ว” ของโปรดของโกมุนยอง โดยใช้ไข่นกกระทา 30 ใบ ต้มกับซีอิ๊วญี่ปุ่น น้ำ และน้ำตาลทราย เคี่ยวให้ไข่นกกระทาเริ่มเปลี่ยนสีประมาณ 20 นาที จากนั้นก็ใส่กระเทียม ขิง และก็พริกชีฟ้าสีแดงกับเขียวลงไปต้มด้วย (พริกจะใส่หรือไม่ใส่ก็ได้มันเป็นแค่ตัวเพิ่มรสชาติเฉย) จากนั้นก็เคี่ยวต่ออีกสักประมาณ 10 นาที จนส่วนผสมทุกอย่างงวดลง เท่านี้ก็ตักใส่จาน กินกันข้าวร้อนๆ สามารถโรยงากับต้นหอมซอยเพื่อเพิ่มสีสันให้กับจานอาหารได้
ซุนแด หรือไส้กรอกเลือดเกาหลี เคยได้ยินไหมละ หลายๆคนอาจไม่คุ้น แต่ถ้าบอกว่าเป็นไส้กรอกที่ทำจากเลือดเเล้วละก็บางคนลองชิม บางคนไม่กล้าลอง ด้วยหน้าตามันไม่ค่อยจะสวยงามเท่าไหร่ "ซุนแดง" เป็นไส้กรอกสีแดงเข้มจึงได้ชื่อว่าไส้กรอกเลือด ไส้ทำด้วยหมูผสมกับข้าวและมันหวาน ซึ่งเป็นของกินดั้งเดิมของเกาหลีที่มีมายาวนาน ปัจจุบันนิยมทานเป็นของกินเล่นหรือเครื่องเคียง ซึ่งตอนแรกจะมาเป็นเส้นยาวๆและตอนขายเขาจะหั่นเป็นชิ้นเล็กๆ จิ้มกินได้พอดีคำ คนเกาหลีส่วนใหญ่จะชอบทานกับกิมจิหรือหัวไช้เท้าดอง บางคนก็กินกับซุปต่างๆ
ลูกรอก’ หรือไส้กรอกไข่ อาหารไทยชาววังที่ได้รับความนิยมในสมัยก่อน ด้วยความวิจิตรบรรจง ประดิดประดอย ที่เป็นเอกลักษณ์ของอาหารไทยชาววัง ทำให้ไส้กรอกไข่ ที่มีส่วนผสมเพียงไข่เป็ดดีกับไส้ไก่หรือไส้หมู ผ่านกระบวนการคิดและปรุงอย่างชาววังออกมามีหน้าตาเหมือนลูกรอก (ลูกเหล็กกลมแบนคล้ายล้อ ที่มัดไว้กับเชือกหรือสายไฟเพื่อชักรอกเคลื่อนย้าย) นิยมนำมาปรุงเป็นแกงจืด
Danmuji หรือ ทันมูจิ ผักดองเกาหลีที่ใครก็รู้จัก กินแกล้มกับข้าวหุงร้อนๆหรือแนมกับเนื้อย่างให้ตัดเลี่ยน วิธีดองแบบดั้งเดิมคือดองแบบแห้งทั้งหัวกับน้ำตาล เกลือ รำข้าว เม็ดพุทราจีนแห้ง (ให้สีเหลือง) ซึ่งใช้เวลาหลายเดือน วิธีทำแบบโฮมเมดเราจะดองในน้ำดองซึ่งใช้เวลาประมาณ 1 สัปดาห์ รับรองอร่อยเช่นเดียวกัน
สตรีทฟู๊ดเกาหลีทำง่าย กินเพลิน ใช้แป้งต๊อกนำมาเสียบไม้ย่างให้เนื้อกรอบนอกเคี้ยวหนึบหนับ ทาด้วยซอสรสเปรี้ยวหวานสไตล์เกาหลี โรยงาขาวเเละต้นหอมซอย ให้รสชาติที่อร่อยฟินจะทำกินเมื่อไหร่ก็ได้ไม่มีเบื่อเเน่นอน
ต้มจิ๋ว เป็นทั้งสำรับชาววังและชาวบ้านที่แต่เดิมนิยมทำกินกันในช่วงเข้าฤดูหนาว ลักษณะคล้ายต้มโคล้ง ต้มส้ม คือมีรสชาติเปรี้ยวเค็ม หวาน เผ็ดร้อนอ่อนๆ ด้วยพริกขี้หนูและกะเพรา หวานธรรมชาติด้วยหอมแดงกับมันเทศ และเนื้อวัวตุ๋นหั่นเต๋าจนเปื่อย สันนิษฐานว่าต้มจิ๋วตำรับในวังนั้นคิดค้นปรุงขึ้นมาโดยพระองค์เจ้าเยาวภาพงศ์สนิท เพื่อถวายพระบิดาล้นเกล้ารัชกาลที่ 5 และทรงเสวยบ่อยครั้งยามที่ทรงพระประชวร จนกลายเป็นอีกหนึ่งเมนูที่ทรงโปรดปราน โดยสูตรของพระองค์เจ้าเยาวภาพงศ์สนิท ระบุวิธีปรุงไว้ว่า
“…ล้างเนื้อให้สะอาด เลาะพังผืดออกให้หมด หั่นเป็นชิ้นพอควร ใส่หม้อเคี่ยวไฟอ่อนๆ พอจวนเปื่อย ปอกมันเทศล้างน้ำแงะๆ ใส่ในหม้อเนื้อ ต้มไปจนเปื่อย ใส่มะขามเปียกนิดหน่อย ซอยหอมใส่ลง พอหอมสุก เด็ดใบโหระพาใบกะเพราล้างน้ำใส่ลงในหม้อ ยกลง ใส่พริกมูลหนูบุบพอแตกๆ บีบมะนาว ใส่น้ำเคยดี ชิมรสดูตามชอบ…”
Cloud Jelly เครื่องดื่มสีฟ้าพร้อมเมฆขาวสุดคิ้วท์ รสชาติหวานอมเปรี้ยวแสนสดชื่น ท็อปปิ้งด้วยมาร์ชเมลโลว์สีขาวปุยนุ่มฟูดุจก้อนเมฆลงไปเพิ่มความเคี้ยวเพลินหนุบหนับ
ข้าวฟางต้ม ราดด้วยน้ำนมลูกเดือย เสิร์ฟคู่กับแปะก๊วยต้ม ลูกเดือยต้ม เนื้อมะพร้าว ถ้าอยากได้ความหวานสามารถใส่น้ำผึ้งได้เล็กน้อย
ข้าวต้มข้าวฟางเป็นเมนูสุขภาพที่นำเอาเม็ดข้าวฟางไปต้มคล้ายกับการต้มข้าวต้ม อาจจะเติมเกลือเล็กน้อยเพื่อเพิ่มรสชาติ นิยมกินคู่กับเห็ดหอมปรุงรสและเทมเปะคั่ว
เส้นขนมจีนเสิร์ฟคู่กับหมูย่างหอมๆกลิ่นเครื่องหมักต่างๆอย่างตะไคร้ ข่าแก่ หอมแดง กระเทียม น้ำผึ้ง น้ำปลา เกลือ น้ำมันพืช น้ำตาลทราย และกะปิ นวดให้เข้าเนื้อ ก่อนนำไปย่าง กินคู่กับผักสดอย่างผักชี โหระพาเด็ดใบ ผักกาดหอม และแตงกวาหั่นแท่ง เสิร์ฟมาพร้อมกับน้ำจิ้มรสชาติเปรี้ยวหวานตามแบบฉบับอาหารเวียดนาม ปิดท้ายด้วยการโรยถั่วลิสงคั่วป่นเล็กน้อย
ขนมจีนน้ำยาสูตรนี้ใช้เนื้อปลาดุกในการทำน้ำยา และใส่น้ำปลาร้าเพื่อเพิ่มความหอมเป็นพิเศษเป็นสูตรเด็ดของชาวเขมร กินคู่กับเส้นขนมจีนและผักแหนมต่างๆ
เมนูขึ้นชื่อของร้านอาหารเวลาไปแถวภาคอีสานของเรา หน้าตาคล้ายกับผัดไทยแต่เครื่องข้างในประกอบด้วยหอมแดง เต้าเจี้ยว และหมูสามชั้น ผัดให้สุกหอม จากนั้นก็ใส่ซีอิ๊วดำหวานเล็กน้อยเพื่อให้มีสีสวย กินคู่กับส้มตำ ถือเป็นเมนูเด็ดที่ใครๆก็ต้องสั่งกิน
ผัดไทยวุ้นเส้นหอมกลิ่นน้ำผัดไทยที่มีส่วนประกอบของน้ำตาลมะพร้าว น้ำปลา และน้ำมะขามเปียก เคี่ยวให้เหนียวข้นเล็กน้อย นำมาผัดกับหัวไช้โป๊ เต้าหู้เหลือง พริกป่น และกุ้ง จนหอม กินคู่กับผักแหนมอย่างหัวปลี ใบกุยช่าย
ขนมเค้กที่ใช้ผลไม้มาทำเป็นหน้า อย่าง Upside down ส่วนมากคนนิยมนำผลไม้ที่มีน้ำมากมาใช้ เพื่อให้เนื้อเค้กชุ่มฉ่ำสูตรนี้เรานำส้มมาเชื่อมกับน้ำตาล โดยใช้เนื้อเค้กเป็นเนื้อบัตเตอร์ ได้รสชาติเข้ากัน กินคู่กับชาร้อนยามบ่าย
“หอยนางรมทอดกับซอสญี่ปุ่นสไปซี่” โดยเลือกใช้หอยนางรมจากสุราษฎร์ตัวใหญ่ นำเนื้อหอยมาหมักกับน้ำมันพริกเผา มิริน สาเก ซีอิ๊วญี่ปุ่น และพริกไทยเล็กน้อย หมักทิ้งไว้สักประมาณ 10 นาที เผื่อให้เนื้อหอยมีรสชาติมากขึ้น จึงค่อยนำมาคลุกแป้ง ชุบไข่ และเกล็ดขนมปังป่นแบบละเอียด จากนั้นก็ตั้งน้ำมันให้ร้อน โดยน้ำมันต้องร้อนให้ดีจึงค่อยเอาหอยลงทอดให้เหลืองกรอบ เสิร์ฟกับซอสที่เป็นการผสมกันระหว่างความเป็นญี่ปุ่นและไทย โดยผสมพริกเผา มายองเนส ซอสพริก และมิริน รสชาติที่ได้ก็จะหวานๆเผ็ดๆ และมันๆ และที่พิเศษกว่านั้นคือไม่ลืมที่จะเสิร์ฟพร้อมกับยอดกระถินและหอมเจียวอีกด้วย
พระรามลงสรง จัดเป็นอาหารโบราณอย่างหนึ่งที่หากินยาก ปกติจะขายเป็นข้าวพระรามลงสรง คือน้ำแกงสีเหลืองคล้ายกับน้ำราดสะเต๊ะราดไปบนข้าวที่มีหมูและผักบุ้งลวกวางอยู่ คำว่าพระรามหมายถึงผักบุ้งจีนสีเขียว ส่วนลงสรงเปรียบถึงการเอาผักบุ้งลงลวกในน้ำ คาดเดากันว่าพระรามลงสรงน่าจะมาจากกับข้าวจานหนึ่งของชาวจีนแต๋จิ๋วชื่อว่า 'ซาแต๊ปิ้ง' ซึ่งมีลักษณะคล้ายกันคือมีผักบุ้งลวก หมู ตับ ราดบนข้าวหรือหมี่ขาว กินราดน้ำแกงคล้ายสะเต๊ะ มีน้ำพริกเผาและน้ำส้มพริกดองเสิร์ฟเคียงเพื่อตัดเลี่ยน
เมนูขวัญใจมหาชนคือ หมูสามชั้นนำมาหมักกับเต้าเจี้ยวของเกาหลี ซอสหมักเต้าเจี้ยว รสชาติคล้ายกับซอสมิโสะของญี่ปุ่นซึ่งหวานๆ เค็มๆ ที่สำคัญมีกลิ่นหอม ซึ่งน่าจะเป็นซอสที่คนไทยชอบกัน เคล็ดลับเมนูนี้คือใช้หมูสามชั้นแผ่นหนาประมาณ 1 ซม.มาหมัก จะทำให้เวลาย่างหมูนุ่มกำลังพอดี ก่อนหมักใช้มีดบากตามเนื้อหมูเพื่อให้ซอสซึมเข้าได้ง่ายขึ้น
ซอสหมักแบบเผ็ดอ่อนๆ ใช้โคชูจังเป็นส่วนผสมหลัก สามารถเอาไปหมักไก่เพื่อทำทัคคาลบี้ได้ ทัคคาลบี้เป็นอาหารผัดแบบเกาหลีที่คนไทยรู้จัก โดยมากเสิร์ฟมาในกะทะร้อนหรือผัดสดใหม่ๆที่โต๊ะอาหาร ทำจากเนื้อไก่ผัดกับซอสพริกแบบเกาหลี ใส่มันหวาน และผักต่างๆ บางทีใส่ต๊อกหรือเส้นอุด้งเข้าไปผัดด้วย กินห่อกับผักกาดเขียวหรือข้าวสวย