KRUA.CO เคยแจกสูตรผักดองทั้งแบบไทย เกาหลี และญี่ปุ่นไปบ้างแล้ว มาครั้งนี้เราเลยเอาสูตรพริกดอง (ที่เห็นแล้วต้องซื้อ!) มาบอกกันบ้าง จัดให้ถึง 3 สัญชาติ ทั้งเกาหลี ฝรั่ง และจีน ใครอยากมีเครื่องเคียงรสจัดจ้านติดบ้านไว้แนะนำเลย ดองง่าย ใช้เวลาไม่นาน ทำวันจันทร์ได้กินวันอาทิตย์ แถมยังเก็บไว้ได้เป็นเดือนเลยนะ
แต่ก่อนจะไปอร่อยยาวๆ กันถึง 3 (สัญ) ชาติ เราขอพามารู้จักการดองพริกกันก่อน… การดองพริกนั้นเป็นวิธีการถนอมอาหารแบบดั้งเดิมที่ได้รับความนิยมมาอย่างยาวนาน เพื่อเก็บรักษาและปรับรสชาติให้พริกที่มีรสเผ็ดร้อนกินง่ายขึ้น การดองจะช่วยเปลี่ยนรสชาติพริกที่มีกลิ่นรสฉุนจัดให้มีรสกลมกล่อมในอีกรูปแบบ ด้วยการแช่พริกในน้ำดองปรุงรส เมื่อพริกคายน้ำออกมารสเปรี้ยวเค็มหวานก็จะเข้าไปแทนที่ พริกดองเป็นเครื่องเคียงที่ไม่ได้ให้แค่รสเผ็ดเพียงอย่างเดียวแต่ยังช่วยกระตุ้นความอยากอาหาร ช่วยเสริมรสชาติและความจัดจ้านให้อาหารมื้อนั้นอร่อยขึ้นด้วย การกินพริกดองเป็นเครื่องเคียงคู่อาหารจานหลักจึงเข้ากันอย่างน่าวิเศษ
การทำพริกดองจะใช้วัตถุดิบที่หาง่าย อุปกรณ์ไม่เยอะ ในการเลือกพริกมาดอง จริงๆ แล้วไม่มีถูกไม่มีผิด เราสามารถเลือกใช้พริกชนิดไหนก็ได้ ตั้งแต่พริกหวาน พริกหยวก พริกชี้ฟ้าไปจนถึงพริกเผ็ดมากแล้วแต่ความชอบ แต่สิ่งที่สำคัญ คือ ควรเลือกพริกที่สดใหม่ เลี่ยงการเอาพริกที่เริ่มนิ่มหรือเละมาดองเด็ดขาด! สำหรับภาชนะที่ใช้ดอง หากเป็นโหลแก้วให้ล้างและต้มในน้ำร้อนก่อนประมาณ 10 นาที คว่ำบนตะแกรงให้แห้งสนิท ถ้าเป็นกล่องให้ล้างทำความสะอาด ตากจนแห้งดี
การเตรียมพริก สิ่งแรกที่ขาดไม่ได้ คือ การล้างพริกให้สะอาด จากนั้นพักไว้หรือใช้กระดาษทิชชูซับให้แห้งสนิทก่อนนำมาดอง เพื่อป้องกันการเกิดเชื้อรา ส่วนการตัดแต่งใครอยากกินพริกเป็นชิ้นพอดีคำแนะนำให้หั่นเป็นแว่นหรือเส้นชิ้นหนาซักหน่อยให้พอได้เคี้ยวหรือจะดองทั้งเม็ดไปเลยก็ได้ แต่ต้องตัดขั้วและใช้ไม้ปลายแหลมจิ้มเม็ดพริกก่อนซัก 3-4 รู เพื่อให้น้ำดองซึมเข้าเนื้อได้ดี
พริกดองซีอิ๊วเกาหลี
สายเกาหลีคงคุ้นเคยกับเครื่องเคียงเวลาไปกินอาหารเกาหลีกันอยู่แล้ว ทั้งกิมจิ ปวยเล้งคลุกน้ำมันงาหรือหัวไชเท้าดอง ซึ่งเครื่องเคียงอีกหนึ่งอย่างที่ได้รับความนิยมไม่แพ้กันก็คือ พริกดองซีอิ๊ว หรือ Gochu-Jangajji (고추장아찌) รสเปรี้ยวเค็มเผ็ดนี้ช่วยตัดเลี่ยนและเสริมรสอาหารได้ดี ส่วนใหญ่ใช้พริกชี้ฟ้าเขียวมาทำ โดยใช้ไม้จิ้มฟันหรือส้อมจิ้มพริกให้เป็นรูซัก 3-4 รู เพื่อให้น้ำดองซึมเข้าเนื้อได้ดีและไม่ทำให้พริกพองตัว จากนั้นเรียงพริกใส่โหลหรือภาชนะมีฝาปิดให้เรียบร้อย เทน้ำดองขณะที่ยังร้อนๆ ลงไป พยายามกดตัวพริกให้จม อาจหาถ้วยเล็กๆ มาวางทับไว้ด้านบน รอจนหายร้อนค่อยปิดฝาให้สนิท แช่ทิ้งไว้ในตู้เย็นประมาณ 5-7 วันจึงนำมากิน
สามารถกินเดี่ยวๆ เป็นอาหารว่างได้เลย แต่ส่วนใหญ่นิยมกินเป็นเครื่องเคียงคู่กับเนื้อย่าง ข้าวยำเกาหลี ของทอด หรือนำมาปรุงเพิ่ม เติมกระเทียม พริกป่น น้ำมันงา โรยงาคั่วกินกับข้าว
พริกหวานดองสไตล์อิตาลี
มาต่อกันที่พริกดองสัญชาติอิตาลีกันบ้าง เรามักเจอพริกดองนี้ในเบอร์เกอร์ แซนด์วิชหรือหน้าพิซซ่า เป็นพริกดองรสเปรี้ยวหวานคล้ายอาจาดบ้านเรา แต่ต่างที่ของเขาจะมีกลิ่นและรสเปรี้ยวของน้ำส้มสายชูหมักที่เด่นชัด รวมถึงกลิ่นเครื่องเทศอย่างกระเทียม พริกไทยดำ ใบกระวานที่ช่วยเสริมรสชาติให้มิติ นิยมใช้พริกหวานหรือพริกจาเลปิโน่ ยิ่งหลายสียิ่งสวย ผ่าเอาเม็ดออก หั่นเป็นเส้นหรือเป็นชิ้นใหญ่ๆก็ได้ สูตรนี้เราเพิ่มหอมแขกลงไปด้วย จัดการใส่ทุกอย่างลงในโหลแก้ว พยายามอัดให้แน่น ส่วนน้ำดองเพียงต้มน้ำ น้ำตาลทราย เกลือสมุทร น้ำส้มสายชู พริกไทย และกระเทียมรวมกัน เทน้ำดองร้อนๆ ลงในโหลพริก (การเทน้ำดองขณะร้อนนอกจากเป็นการฆ่าเชื้อแบคทีเรียแล้วยังทำให้พริกมีเนื้อกรุบกรอบขึ้นด้วย) รอจนหายร้อนค่อยปิดฝา แช่ไว้ในตู้เย็นประมาณ 5-7 วันให้เข้าเนื้อก่อนนำมากิน
คลิกดูสูตรพริกหวานดองสไตล์อิตาลี
พริกดองแบบจีน
(สัญ) ชาติสุดท้ายมากันที่ประเทศจีน เจ้าแห่งการกินเผ็ดจนต้องร้องขอชีวิต โดยเฉพาะอาหารเสฉวนที่ขึ้นชื่อเรื่องเครื่องเทศรสเผ็ดร้อนชาลิ้นอย่าง ‘หม่าล่า’ สำหรับพริกดองสูตรนี้ใช้พริกชี้ฟ้าแดงมาปั่นรวมกับขิงและกระเทียม หรือเปลี่ยนเป็นพริกจินดาแดงก็จะยิ่งเผ็ด เคล้าพริกรวมกับเกลือ น้ำตาลทราย น้ำส้มสายชูและเหล้าจีน ตักใส่กระปุก หรือโหลแก้ว ปิดฝา แช่ทิ้งไว้ในตู้เย็นประมาณ 2-3 วันถึงนำมากินได้ แต่จะให้อร่อยที่สุดต้องประมาณ 1 สัปดาห์ รสเผ็ดเค็ม หอมกลิ่นขิง กระเทียมและเหล้าจีนนี้ช่วยเสริมรสของอาหารให้อร่อยจัดจ้านยิ่งขึ้น
ส่วนมากนิยมกินกับอาหารประเภททอดหรืออาหารที่มีความมันเลี่ยน อย่างขาหมู หมูกรอบ ข้าวมันไก่ ปลานึ่ง จะใส่ปรุงรสในก๋วยเตี๋ยว ทำซอส น้ำจิ้มหรือทำเป็นกับข้าวก็ได้
อ่านบทความเพิ่มเติม
