โพเลนต้า (polenta) เป็นอาหารที่มีความผูกพันกับชาวฝรั่งเศสตอนใต้ และอิตาลีตอนเหนือ รวมไปถึงสโลวีเนีย มันคืออาหารจำพวกแป้ง ที่ทำได้จากเมล็ดธัญพืชบดหยาบหลากหลายชนิด รากศัพท์ของคำว่า polenta นั้นมาจากคำว่า puls ในภาษาละติน แปลว่าโจ๊กที่ทำจากข้าวสาลีพันธุ์ farro เมื่อก่อนนั้น โพเลนต้าทำมาจากธัญพืชหลากหลายชนิด ทั้งข้าวบาร์ลีย์ ไรย์ เมล็ดบัควีต เมล็ดมิลเล็ต (millet) แต่ที่หากินกันได้ง่ายๆ ทั่วไปในปัจจุบันนี้คงจะเป็นโพเลนต้าสีเหลืองที่ทำจากข้าวโพดบดพยาบนั่นเอง
โพเลนต้าถือเป็นอาหารของคนยากจน เพราะราคาถูก และทำได้ง่ายๆ เปรียบเทียบได้กับมันฝรั่ง ขนมปัง หรือข้าวของบ้านเรา อาหารจานนี้หากินได้ง่ายๆ ในอิตาลีตอนเหนือ โดยเฉพาะบนภูเขา เมื่อนึกถึงโพเลนต้า หลายคนจึงจะนึกถึงช่วงฤดูหนาว ที่ขึ้นเขาไปทริปเล่นสกี แล้วหนีหนาวเข้าไปกินอาหารบ้านๆ ร้อนๆ ในริฟูจิโอ (rigugio) หรือร้านอาหารเล็กๆ บนเทือกเขา
บ้านเรามีข้าวขาว ขาวแดง ข้าวสีดำ โพเลนต้าเองก็ไม่ต่างกัน ชนิดที่เป็นที่นิยมมากที่สุดคือโพเลนต้าสีเหลืองซึ่งสามารถหาซื้อได้ตามซูเปอร์มาร์เก็ตทั่วไป ส่วนโพเลนต้าสีขาวจะเป็นที่นิยมมากหน่อยในแคว้นเวเนโต้ แถบเมืองเวนิส
สมัยก่อนนั้น โพเลนต้าจะต้องเอาไปต้มกับน้ำหรือซุป นานเกือบหนึ่งชั่วโมงบนเตาฟืน และต้องคอยคนไปเรื่อยๆ ไม่ให้ติดก้นหม้อ แต่เดี๋ยวนี้แม่บ้านสมัยใหม่สบายใจได้ เพราะนอกจากจะมีเครื่องอัตโนมัตที่ช่วยกวนโพเลนต้าแทนการใช้กำลังแขนแล้ว ยังมี pre-cooked polenta หรือโพเลนต้าที่ถูกต้มมาแล้วรอบหนึ่ง ก่อนจะเอามาทำให้แห้งแล้วใส่ถุงขาย เอามาต้มในหม้ออีกแค่ 5-10 นาทีก็พร้อมกิน หรือแบบที่ทำสำเร็จใส่หลอดพลาสติกเหมือนเต้าหู้ไข่บ้านเรา แค่เอามาหั่นเป็นแว่นๆ แล้วอุ่นให้ร้อนในกระทะก็มีเหมือนกัน
โพเลนต้านั้นกินได้สองแบบ ตอนที่เพิ่งต้มเสร็จ กินอุ่นๆ คล้ายโจ๊กหรือมันบด ถ้าทิ้งไว้สักพักให้เย็นตัวลง จะเริ่มจับตัวกันเป็นก้อน เอามาหั่นเป็นแผ่นๆ ได้ ทีนี้เอาไปทำอะไรได้หลายอย่างเลย จะหั่นเป็นแผ่นแล้วกินกับซุปหรือสตูแทนขนมปังก็ได้ เพราะเจ้าโพเลนต้าที่แข็งแล้วนั้นก็ยังซึมซับรสชาติของซุปเข้าไปได้อยู่ หรือจะโพเลนต้าที่หั่นเป็นแผ่นบางๆ เรียงสลับกับชีส เข้าไปอบในเตาอบ ได้อาหารง่ายๆ จานใหม่ออกมา ถ้าเอาโพเลนต้าหั่นเป็นชิ้นๆ แล้วนำไปย่าง หรือทอดในกระทะ ก็จะได้โพเลนต้าร้อนๆ ที่กรอบนอก นุ่มใน เรียกได้ว่าอาหารง่ายๆ จากวัตถุดิบอย่างเดียว แปลงร่างการเป็นอาหารจานอร่อยได้อีกมากมายหลายจาน
นอกจากนี้ โพเลนต้ายังถือเป็นแหล่งคาร์โบไฮเดรตเชิงซ้อนที่มีประโยชน์ ไขมันต่ำ เต็มไปด้วยใยอาหาร และโปรตีนในระดับเดียวกับข้าวกล้อง และไม่มีกลูเตนตามธรรมชาติ เพราะฉะนั้น ใครกำลังมองหาอาหารเพื่อสุขภาพจานใหม่ ลองเอาแรงบันดาลใจจากวัตถุดิบง่ายๆ จากอิตาลี แล้วเข้าครัวกับเจ้าโพเลนต้าดู อาจจะได้เมนูแปลกๆ มีประโยชน์มาให้ชิมกันอีกเพียบเลยก็ได้
ภาพ raw polenta จาก: https://www.abelandcole.co.uk