INGREDIENTS
METHOD
1. ต้มน้ำในหม้อด้วยไฟแรง รอให้น้ำเดือดจัด ใส่เนื้อหนางลงต้มนานประมาณ 10 นาที ตักขึ้น ล้างน้ำให้หมดกลิ่นคาว พักไว้ในตะแกรงให้สะเด็ดน้ำ (ต้มเนื้อหนางเพื่อดับกลิ่นคาวเนื้อ และช่วยให้รสเปรี้ยวลดลง เมื่อนำ ไปปรุงอาหาร รสชาติจะไม่เปรี้ยวจัดจนเกินไป)
2. ก่อนนำมีดมาหั่นหยวกกล้วย ใช้น้ำมันพืชลูบให้ทั่วคมมีดเพื่อไม่ให้ยางจากหยวกกล้วยติดมีด หั่นหยวกกล้วยตามขวางเป็นชิ้นหนาประมาณ 2-3 นิ้ว ใส่แช่ในอ่างน้ำที่ละลายกับเกลือ เพื่อไม่ให้หยวกกล้วยมีสีดำคล้ำ หากหั่นชิ้นเล็กเกินไป เมื่อนำหยวกกล้วยไปต้มอาจเละได้
3. ต้มหางกะทิด้วยไฟกลาง รอให้เริ่มเดือด ใส่เนื้อหนางลงในหม้อ ต้มจนหางกะทิเดือดอีกครั้ง ใส่ตะไคร้ ข่า หอมแดง และขมิ้นลงในหม้อ เพื่อให้กลิ่นหอมจากสมุนไพรดับกลิ่นคาวเนื้อหนาง ลดเป็นไฟกลางค่อนข้างอ่อน เคี่ยวเนื้อหนางจนเปื่อยนุ่ม นานประมาณ 30 นาที ปรุงรสด้วยเกลือ ตามด้วยกะปิสำหรับแกงที่ละลายน้ำและน้ำตาลทราย คนให้เข้ากัน เร่งเป็นไฟแรงให้กะทิเดือดอีกครั้งใส่หยวกกล้วย ใช้ทัพพีกดพอให้น้ำกะทิท่วมผัก ต้มแค่พอหยวกกล้วยสุกนุ่ม นานประมาณ 10-15 นาที ชิมรสให้ออกเปรี้ยวเค็มหอมกลิ่นเนื้อหนาง ใส่หัวกะทิ คนให้เข้ากัน ปิดไฟ
4. ตักต้มกะทิเนื้อหนางใส่ถ้วย รับประทานร้อนๆ