ต้มกะทิเนื้อหนาง

3,003 VIEWS
PIN
SERVES SERVES 4-5 คน LEVEL LEVEL ปานกลาง
หนาง เป็นการถนอมอาหารประเภทเนื้อสัตว์ของภาคใต้ ทำจากเนื้อสัตว์ได้หลายชนิด เช่น หมู เนื้อวัว เนื้อไก่ หั่นเป็นชิ้นเล็กๆ หมักกับเกลือและน้ำตาลโตนด อาจผสมหยวกกล้วยหรือหน่อไม้ หมักทิ้งไว้ประมาณ 5-7 วันหรือจนกว่าจะเปรี้ยว สามารถนำมาปรุงอาหารได้หลายชนิด เช่น ต้ม แกง นึ่ง ใครชอบอาหารใต้เเละกลิ่นเครื่องสมุนไพร หอมกลิ่นเนื้อหนางอย่าพลาดเด็ดขาด

INGREDIENTS

เนื้อหนางหั่นชิ้นพอคำ
500
กรัม
หยวกกล้วย
300
กรัม
หางกะทิ
6
ถ้วย
ตะไคร้หั่นท่อนขนาด 3 นิ้ว ทุบพอแตก
5
ต้น
ข่าหั่นแว่นหนา 2 นิ้ว ทุบพอแตก
5
ชิ้น
หอมแดงแกะเปลือกทุบพอแตก
5
หัว
ขมิ้นอ้อยทั้งเปลือกหั่นท่อน 1 นิ้ว บุบพอแตก
1
ชิ้น
เกลือสมุทร
1
ช้อนชา
กะปิสำหรับแกง
1
ช้อนโต๊ะ
น้ำ
¼
ถ้วย
น้ำตาลทราย
1
ช้อนชา
หัวกะทิ
2
ถ้วย

METHOD

1. ต้มน้ำในหม้อด้วยไฟแรง รอให้น้ำเดือดจัด ใส่เนื้อหนางลงต้มนานประมาณ 10 นาที ตักขึ้น ล้างน้ำให้หมดกลิ่นคาว พักไว้ในตะแกรงให้สะเด็ดน้ำ (ต้มเนื้อหนางเพื่อดับกลิ่นคาวเนื้อ และช่วยให้รสเปรี้ยวลดลง เมื่อนำ ไปปรุงอาหาร รสชาติจะไม่เปรี้ยวจัดจนเกินไป)

2. ก่อนนำมีดมาหั่นหยวกกล้วย ใช้น้ำมันพืชลูบให้ทั่วคมมีดเพื่อไม่ให้ยางจากหยวกกล้วยติดมีด หั่นหยวกกล้วยตามขวางเป็นชิ้นหนาประมาณ 2-3 นิ้ว ใส่แช่ในอ่างน้ำที่ละลายกับเกลือ เพื่อไม่ให้หยวกกล้วยมีสีดำคล้ำ หากหั่นชิ้นเล็กเกินไป เมื่อนำหยวกกล้วยไปต้มอาจเละได้

3. ต้มหางกะทิด้วยไฟกลาง รอให้เริ่มเดือด ใส่เนื้อหนางลงในหม้อ ต้มจนหางกะทิเดือดอีกครั้ง ใส่ตะไคร้ ข่า หอมแดง และขมิ้นลงในหม้อ เพื่อให้กลิ่นหอมจากสมุนไพรดับกลิ่นคาวเนื้อหนาง ลดเป็นไฟกลางค่อนข้างอ่อน เคี่ยวเนื้อหนางจนเปื่อยนุ่ม นานประมาณ 30 นาที ปรุงรสด้วยเกลือ ตามด้วยกะปิสำหรับแกงที่ละลายน้ำและน้ำตาลทราย คนให้เข้ากัน เร่งเป็นไฟแรงให้กะทิเดือดอีกครั้งใส่หยวกกล้วย ใช้ทัพพีกดพอให้น้ำกะทิท่วมผัก ต้มแค่พอหยวกกล้วยสุกนุ่ม นานประมาณ 10-15 นาที ชิมรสให้ออกเปรี้ยวเค็มหอมกลิ่นเนื้อหนาง ใส่หัวกะทิ คนให้เข้ากัน ปิดไฟ

4. ตักต้มกะทิเนื้อหนางใส่ถ้วย รับประทานร้อนๆ