กระเจี๊ยบมาตุ๋นกับหมูสามชั้น ให้เนื้อสามชั้นนั้นเปื่อยนุ่ม โดยได้แรงบันดานใจมาจาก หมูตุ๋นไวน์แดงของฝรั่ง เลยคิดว่ากระเจี๊ยบเราก็มีความเป็นกรด รสเปรี้ยว ก็น่าจะทดแทนกันได้กับไวน์แดง จึงนำมาตุ๋น โดยในหม้อที่ตุ๋นนั้นก็จะประกอบไปด้วยหอมใหญ่ กระเทียม พริกไทย และใบกระวาน เพิ่มกลิ่นและรสชาติให้กับหมูสามชั้นตุ๋นในครั้งนี้ ใช้เวลาเคี่ยวนานประมาณ 2 ชั่วโมง เพื่อให้เนื้อหมูมีความนุ่ม จากนั้นก็นำออกมาตัดให้เป็นชิ้นพอคำ นำไปทอดในกระทะให้เหลืองสวยทุกด้าน จากนั้นก็จะนำกระเจี๊ยบสดมาซอยเป็นเส้น ผัดให้นุ่มรวมกับหอมใหญ่ เบคอน ปรุงรสด้วยน้ำตาลทรายแดงเล็กน้อยเพื่อตัดรสเปรี้ยว ส่วนนำที่เคี่ยวก็นำมากรองเอาแต่น้ำแล้วนำไปเคี่ยวให้งวด ปรุงรสด้วยน้ำตาลทรายแดง เกลือ และพริกไทยเล็กน้อย จากนั้นค่อยใส่วิปปิ้งครีมและเนยตอนท้าย เพื่อให้ได้รสชาติซอสที่กลมกล่อม จากนั้นก็จัดเสิร์ฟกับมันบด และแครอทผัดเนย

ทำชาผลไม้เองตั้งแต่ต้นจนจบแล้วจิบฝีมือตัวเองให้ชื่นใจ

“ชาสับปะรดแก้วมังกร” อันนี้ภูมิใจนำเสนอมากๆเลยเพราะว่าหอม เปรี้ยวหวาน ลงตัวแบบสุดๆ ด้วยความที่เป็นสับปะรดเป็นผลไม้ที่มีรสชาติเป็นเอกลักษณ์ในตัวทำให้ชาแก้วนี้โดดเด่นกว่าแก้วไหนๆ เพิ่มความหวานเล็กน้อยด้วยน้ำผึ้งหรือถ้าหากใครสายสุขภาพอาจจะไม่ต้องเติมน้ำผึ้งลงไปก็ได้เช่นกัน แน่นำให้กินแบเย็นๆจะหอมหวานชื่นใจเป็นแน่

“ชาเปลือกส้ม” ที่จะมีส่วนผสมของส้มเป็นสำคัญทั้งเปลือกส้ม และส้มทั้งลูก เพิ่มความหวานด้วยน้ำผึ้งหรือจะใช้น้ำตาลกรวดก็ได้เช่นกัน ในสูตรนี้จะใส่ชาเลมอนแบบเป็นซองลงไปด้วยเพื่อเพิ่มความเปรี้ยวและหอมกลิ่นชามากยิ่งขึ้น แนะนำถ้าทำให้ผู้ใหญ่กินอาจจะให้กินแบบร้อนๆ คู่กับขนมอย่างคุกกี้หรือขนมเปี๊ยะ แต่ถ้าเป็นเด็กๆวัยรุ่นหน่อยจะทำเป็นเครื่องดื่มเย็นก็ได้เช่นกัน แต่รสชาติของชาอาจจะติดขมนิดหน่อยนะคะในสูตรนี้

“ชาผลไม้รวม” คือจะรวมผลไม้เกือบทุกชนิดใส่ลงมาในชาแก้วนี้ จะได้รสชาติและสีสันที่โดดเด่น มีทั้งความเปรี้ยวอมหวานของส้ม และความหอมของสตรอวเบอร์รี และเพิ่มความเปรี้ยวของเม็ดทับทิม เข้าไปอีก ทำให้ชาแก้วนี้มีหลากหลายรสชาติ เพิ่มความหวานด้วยน้ำผึ้งเช่นเดียวกัน

“ชาผลไม้สด” เป็นการนำเอาส้ม สตรอวเบอร์รี ทับทิม มาใส่ลงในขวดโหลจากนั้นก็ใส่น้ำผึ้งลงไป กดให้เนื้อผลไม้แตกตัวเล็กน้อย เพื่อให้น้ำผึ้งกันน้ำในตัวผลไม้ได้ผสมกันได้ดี จากนั้นก็หมักในตู้เย็นสักประมาณ 1 คือเต็มๆ หรือจะนานกว่านั้นก็ได้ พอจะเอามาชงก็แค่ใส่ลงในน้ำร้อนต้มและแช่ทิ้งไว้สักเล็กน้อย เติมน้ำผึ้งลงไปหน่อยถ้าต้องการรสชาติที่หวานหอม กินเย็นๆชื่นใจสุดๆ

ปลาไทยกับเมนูฟิวชั่นรสจัดจ้านในสไตล์ญี่ปุ่น

“ดงบุริข้าวคลุกพริกเกลือ” เป็นการนำเอาข้าวคลุกพริกเกลือแบบจันทรบุรี มาผสมรวมกับเทมปุระแบบของญี่ปุ่น โดยในส่วนพริกเกลือนั้นจะนำไปคลุกกับข้าวที่หุงรวมกันระหว่างข้าวหอมมะลิของไทยกับข้าวญี่ปุ่น ทำให้ได้เนื้อสัมผัสของข้าวนั้นที่หนึบๆเล็กน้อย จากนั้นก็นำพริกเกลือมาคลุกให้เคลือบเม็ดข้าวจนทั่ว จากนั้นก็ใส่กระเทียมเจียวลงไปคลุกเคล้าเพิ่มอีกเล็กน้อย เพิ่มให้เวลาตักข้าวกินเข้าไปแล้วนั้นมีความกรุบๆเล็กน้อยของกระเทียมเจียว ส่วนปลาเนื้ออ่อนนั้นถ้าได้ขนาดที่ใหญ่ก็แล่เอาแต่เนื้อมา แต่ถ้าได้ขนาดเล็กหรือกลางก็สามารถทอดได้ทั้งชิ้นแบบไม่ต้องแล่เอาแต่เนื้อเลย นำเนื้อมาเคล้ากับแป้งแห้งเล็กน้อยก่อนนำไปชุบกับแป้งทอดเทมปุระที่ผสมเอาไว้ ซึ่งในส่วนของแป้งทอดเทมปุระนั้น ใช้แป้งสองชนิดในการผสมกัน เพื่อให้ได้เนื้อแป้งที่บางและเบา ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของเทมปุระอยู่แล้ว ผสมให้เข้ากันจากนั้นก็แช่ในตู้เย็นให้แป้งเย็นตลอดเวลาก่อนที่จะนำมาทอด พอน้ำมันที่จะทอดร้อนได้ที่แล้วก็จัดการนำเนื้อปลาลงทอดในน้ำมันได้เลย เนื้อปลาที่ได้ก็จะมีลักษณะบางเบาแต่กรอบ สีเหลืองนวลสวย

เจาะทุกปัญหาในการทำขนมปราบเซียนอย่าง 'มาการอง' รับรองงานนี้ต่อให้ไม่เซียนก็ไม่พัง

ขนมชนิดนี้ถือเป็นขนมปราบเซียน แต่ในความยากนั้นกลับมีเสน่ห์ดึงดูดใจให้คนรักขนมทุกคนอยากที่จะลองทำดูสักครั้งในชีวิต อย่างสูตรนี้ใช้พิตาชิโอมาทำเป็นไส้ให้มีความหอมมันของถั่ว และมีรสเปรี้ยวนิดๆของครีมชีส

ทำความรู้จักทาร์ตกันให้ถึงเนื้อแป้ง พร้อม 3 สูตรทาร์ตหวาน กรอบ อร่อย ฟิน

“ทาร์ตไวท์ช็อกโกแลตราสเบอร์รี” ที่นำเอาไวท์ช็อกโกแลตมาผสมรวมกันกับมัสคาโปร์เนชีส วิปปิ้งครีม และมะนาวเล็กน้อย เพื่อไม่ให้ตัวไส้มีความหวานมากเกินไป เพิ่มความพิเศษด้วยราสเบอร์รีแยม ด้านฐานล่าง และราสเบอร์รีสดตกแต่งด้านบน ตัวแยมด้านล่างจะช่วยลดทอนความหวานได้ดีของตัวไวท์ช็อกโกแลตได้ดี