ทุกบ้านของคนเมืองมักมีแหนมหรือจิ้นส้มเก็บไว้ในตู้กับข้าว ในตลาดหรือตามร้านขายของชำต้องมีจิ้นส้มขาย เมื่อยามหิวไม่รู้จะกินอะไร เพียงจิ้นส้มหนึ่งห่อกับข้าวเหนียวปั้นหนึ่งพกไปกินตอนไปโต้งไปนาก็อิ่มท้องละ
แหนมลำๆจะมีรสเปรี้ยวกำลังดี บางคนชอบเปรี้ยวมากก็ทิ้งไว้นานหน่อย นอกจากใช้ข้าวเหนียวจ้ำกินสดๆแล้ว จิ้นส้มยังใช้เป็นเครื่องปรุงรส ใส่ในแกง ผัด ต้ม ช่วยเพิ่มรสเปรี้ยวได้ดี คนเมืองแต่ก่อนถ้าอยากให้แหนมสุก จะเอาแหนมมา “หมก” คือ ห่อแหนมในใบตองหลายๆชั้น แล้ววางไว้บนถ่านที่มีกองขี้เถ้ากลบอยู่ แหนมในห่อใบตองจะค่อยๆสุก มีกลิ่นหอมใบตองระอุอยู่ข้างใน ด้วยเหตุนี้เองจึงเรียกอาหารชนิดนี้ต่อๆกันมาว่า “แหนมหมก”
ต้มจับฉ่าย เมนูที่ต้องทำทีละเยอะๆ เพราะเมื่อนำมาอุ่นแล้วอุ่นอีกก็จะยิ่งอร่อยมากกว่ากินครั้งแรกหลังจากทำเสร็จ เป็นเมนูที่คนชอบกินผักนุ่มๆจะต้องหลงรัก ทั้งน้ำซุปที่ผ่านการเคี่ยวจนความหวานผักออกมา กินกับข้าวสวยร้อนๆ บอกเลยอร่อยจนต้องเติมข้าว
“น้ำพิกฮ้า” หรือ “น้ำพิกป๋าฮ้า” เป็นน้ำพริกหนึ่งที่นิยมทำเพื่อต้อนรับแขกบ้านแขกเมืองไม่น้อยหน้าไป
กว่าน้ำพริกอ่อง น้ำพริกหนุ่ม และน้ำพริกตาแดง เครื่องปรุงสำคัญของน้ำพริกปลาร้า คือ ปลาร้า ซึ่งเป็นอีก
เครื่องปรุงรสหนึ่งในอาหารเหนือ น้ำพริกปลาร้าจะอร่อยต้องได้ปลาร้าดี รสอร่อย นำมาสับ ห่อใบตอง หมกไฟ
ให้มีกลิ่นหอมทั้งปลาร้าและใบตองคละคลุ้งไปทั่วครัว เครื่องตำน้ำพริกก็ไม่ผิดแผกแตกต่างไปจากน้ำพริกหนุ่ม
มากนัก บางตำรับจะเพิ่มสีและรสเผ็ดด้วยพริกขี้หนูหรือพริกชี้ฟ้าสีแดง รสชาติของน้ำพริกปลาร้าจะออกเค็มนำ
หอมกลิ่นเครื่องปรุงที่นำไปหมกหรือเผา
กากหมูที่เจียวใหม่ๆ จะมีกลิ่นหอมและกรอบ เมื่อนำมาผัดกับน้ำพริกเผา ปรุงรสเปรี้ยวเค็มหวาน จะช่วยเสริมรสให้มันหอม อร่อยขึ้น มันหมูใช้มันแข็ง เนื้อสีขาว สดใหม่ สะอาดไม่มีกลิ่นล้างแล้วแช่เย็นทั้งชิ้นพอให้แข็งจะช่วยให้หั่นง่าย เวลาเจียวกากหมูให้ใส่น้ำลงไปพร้อมมันหมูด้วยเล็กน้อย น้ำจะช่วยให้น้ำมันร้อนเร็วขึ้น น้ำมันหมูออกมามาก และกากหมูเหลืองกรอบน่ากิน